สปท.มติเห็นชอบแผนปฏิรูปตร. แฉค้างเงินพนง.สอบสวนพุ่ง 729 ล้าน จนไม่อยากรับคดี

สปท.ชงแผนปฏิรูปกิจการตำรวจ อนุ กมธ.แฉติดหนี้ค้างจ่าย พนง.สอบสวน 729 ล้านบาท เสนอเพิ่มค่าตอบแทนสร้างขวัญกำลังใจ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สปท. เรื่องการปฏิรู ประบบงบประมาณกิจการตำรวจ เพื่อยกระดับความปลอดภัยของประชาชน โดย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานอนุกรรมาธิการการจัดทำรายงานฉบับดังกล่าวระบุถึงสภาพปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังพล ยานพาหนะ และเชื้อเพลิงของสถานีตำรวจทั่วประเทศ โดยในส่วนอัตรากำลังพลขาดอยู่ 43,708 อัตรา จากจำนวนกำลังพลที่มีความจำเป็น 179,239 อัตรา รถยนต์ขาดอยู่ 18,892 คัน จากจำนวนความจำเป็นที่ต้องมี 24,775 คัน รถจักรยานยนต์ขาดอยู่ 12,626 คัน จากจำนวนความจำเป็นที่ต้องมี 49,658 คัน การขาดแคลนดังกล่าวส่งผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่สามารถจัดวางกำลังในสายงานต่างๆ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่นครบาลที่มีกำลังสายตรวจอยู่เพียง 12,204 คน ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการป้องกันอาชญากรรม

พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังมีปัญหาขาดแคลนเงินค่าตอบแทนการสอบสวนคดีอาญาของพนักงานสอบสวน เนื่องจากการทำสำนวนสอบสวน การรวบรวมพยานหลักฐานมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่พนักงานสอบสวนต้องสำรองเงินส่วนตัวออกไปก่อน บางคดีไม่สามารถเบิกจ่ายกลับคืนมาได้ เป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่อยากรับคดีเพราะจะมีค่า ใช้จ่ายตามมา ซึ่งปัจจุบันมียอดค้างการจ่ายค่าตอบแทนการทำสำนวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน สะสมมาตั้งแต่ปี 2556-ปัจจุบันเป็นจำนวนถึง 729 ล้านบาท จึงบั่นทอนประสิทธิภาพและขวัญกำลังใจพนักงานสอบสวนอย่างมาก นอกจากนี้ยังพบปัญหาเงินเดือนและค่าตอบแทนตำรวจสายปฏิบัติการไม่เหมาะสมกับภารกิจและความรับผิดชอบ และยังมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต บาดเจ็บมากกว่าข้าราชการพลเรือนอื่นๆ ถึง 13-56-22 เท่า แต่ได้รับเงินเดือนน้อย ทั้งที่ประเทศอื่นๆ ให้เงินเดือนตำรวจมากกว่าข้าราชการพลเรือนอื่นๆ จากความตรากตรำของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างหนัก จนเกิดความเครียด ทำให้มีสถิติตำรวจฆ่าตัวตายบ่อยครั้ง โดยปี 2557 มีตำรวจฆ่าตัวตาย 40 คน ปี 2558 จำนวน 38 คน ปี 2559 จำนวน 35 คน รวม3ปี มีตำรวจฆ่าตัวตาย 113 คน

พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวอีกว่า กมธ.มีข้อเสนอการปฏิรูปตำรวจว่า ควรจัดสรรงบประมาณค่าตอบแทนสอบสวนคดี อาญาของพนักงานสอบสวนในแต่ละปีให้ครบถ้วนตามจำนวนคดีที่เกิดขึ้นจริง ไม่มียอดค้างชำระ ตลอดจนการปรับเงินประจำตำแหน่งของพนักงานสอบสวนให้เทียบเท่ากับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอื่นเช่น ศาล อัยการ ป.ป.ช. กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นอกจากนี้ควรปรับค่าตอบแทนตำรวจให้เหมาะกับความเหน็ดเหนื่อยและความเสี่ยงภัย อาทิ การเพิ่มเงินประจำตำแหน่งสำหรับตำแหน่งที่มีความเสี่ยงภัย การเพิ่มเงินประจำตำแหน่งแก่ตำรวจที่ต้องเหน็ดเหนื่อยตรากตรำตามจำนวนชั่วโมงการทำงานที่เพิ่มขึ้นให้เกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานการทำงานของข้าราชการพลเรือน ทั้งนี้ สมาชิก สปท.ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนหลักการรายงานฉบับนี้ โดยเห็นด้วยให้เพิ่มอัตรากำลังพล และปรับค่าตอบแทนต่างๆ ให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขวัญกำลังใจตำรวจในการปฏิบัติงาน

จากนั้นที่ประชุม สปท.ลงมติเห็นชอบรายงานด้วยคะแนน 129 ต่อ 1 งดออกเสียง 16 ส่งรายงานให้ ครม.และคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน พิจารณาต่อไป

 

ที่มา : มติชนออนไลน์