มหาดไทย ออก 9 มาตรการ กำชับผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ยกระดับคุมโอมิครอน

ปลัดมหาดไทย ออก 9 มาตรการ ยกระดับคุมโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนทั่วประเทศ

วันที่ 9 มกราคม 2565 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท.0230/ว 158 ลงวันที่ 8 มกราคม 2565 ถึงปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ฉบับที่ 41 ซึ่งมีผลในวันที่ 9 มกราคม 2565

ทั้งนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) พิจารณาแล้ว ขอให้กรุงเทพมหานครและจังหวัดดําเนินการตามข้อกําหนดฯ และคําสั่งฯ

1. รับทราบและถือปฏิบัติตามข้อกําหนดฯ และคําสั่งฯ ดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด

2. สร้างการรับรู้แก่ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ประชาชน และ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับว่า มาตรการตามข้อกําหนดดังกล่าวมีเจตนารมณ์เพื่อเตรียมความพร้อม รับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ซึ่งประเทศไทยเริ่มตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวมากขึ้นเป็นลําดับ

3. การปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์และการกําหนดพื้นที่นําร่องด้านการ ท่องเที่ยว สําหรับจังหวัดที่ได้ปรับระดับเขตพื้นที่สถานการณ์ขึ้นใหม่ตามคําสั่ง ศบค. ที่ 1/2565 ซึ่งออกตาม ข้อกําหนดฯ (ฉบับที่ 41) นี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมการด้าน บุคลากร สถานที่ และประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมเพื่อการดําเนินการ ตามมาตรการ ข้อห้ามและข้อปฏิบัติต่าง ๆ เป็นการล่วงหน้า

4. การขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรค ให้บรรดามาตรการควบคุม แบบบูรณาการ ข้อห้าม ข้อยกเว้น และข้อปฏิบัติสําหรับพื้นที่สถานการณ์ระดับต่าง ๆ รวมทั้งมาตรการเตรียม ความพร้อมตามข้อกําหนดฯ (ฉบับที่ 17) ลงวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2564

ได้แก่ การห้ามจัดกิจกรรมที่มี ความเสี่ยงต่อการแพร่โรค กิจกรรมการรวมกลุ่มของบุคคลที่สามารถจัดได้โดยไม่ต้องขออนุญาต การปฏิบัติงาน นอกสถานที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ มาตรการควบคุมแบบบูรณาการจําแนกตามพื้นที่สถานการณ์ และ มาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไป

ในส่วนของ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการหรือ ผู้ประกอบการภาคเอกชน พิจารณาเพื่อดําเนินมาตรการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นอกสถานที่ตั้งหน่วยงานหรือ สถานประกอบการ (Work From Home) ตามความเหมาะสมเพื่อการเฝ้าระวังป้องกันการระบาดของโรค โดยให้ดําเนินมาตรการนี้ต่อเนื่องไป จนถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565

5. การปรับปรุงมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว สําหรับ พื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยวให้ดําเนินการตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเพื่อการ เปิดสถานที่ กิจการ และกิจกรรมสําหรับพื้นที่สถานการณ์ที่จําแนกเป็นเขตพื้นที่เฝ้าระวัง

กรณี การบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอล์ในร้านจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่อยู่ในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว จะเปิดให้บริการได้ เฉพาะร้านที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety and Health Administration) ในระดับ SHA PLUS ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย

หรือผ่านการตรวจมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรค COVID – 19 รองรับสุขภาพดี วิถีใหม่ (Thai Stop Covid 2 Plus) ของกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยแล้วเท่านั้น และให้บริการบริโภค สุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านได้ไม่เกินเวลา 21.00 น.

ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแล้วแต่กรณี พิจารณากําหนดมาตรการควบคุมแบบ บูรณาการเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละพื้นที่

6. การเตรียมความพร้อมของสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคทั่วราชอาณาจักร สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่น ที่มีลักษณะคล้ายกันทั่วราชอาณาจักรยังคงมีความจําเป็นให้ปิดดําเนินการไว้ก่อน

หากผู้ประกอบการหรือผู้มี หน้าที่รับผิดชอบสถานที่ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขแล้ว และประสงค์ จะปรับรูปแบบของสถานที่ดังกล่าว เพื่อการให้บริการในลักษณะที่เป็นร้านจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม จะต้องได้รับการตรวจสอบและประเมินความพร้อมของสถานที่ บุคลากร และการจัดการตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคที่กําหนด

และต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี ภายในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2565 ก่อนเปิดให้บริการได้ภายใต้ การกํากับติดตามของพนักงานเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ การให้บริการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในสถานที่ที่ได้ปรับรูปแบบเป็นร้านจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว จะต้องดําเนินการตามมาตรการที่กําหนดไว้ในข้อ 5 ด้วย

7. การปรับแนวปฏิบัติเพื่อการดําเนินการตามมาตรการป้องกันโรคสําหรับผู้เดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักรเพิ่มเติม ให้ ศบค. มีคําสั่งเพื่อปรับปรุงหรือเพิ่มเติมแนวปฏิบัติเพื่อให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ดําเนินการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด

จากที่ได้ประกาศไว้ในคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 25/2564 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตามความ (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2564

8. การยกระดับการปฏิบัติงานเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาด ด้วยการประเมิน สถานการณ์แพร่ระบาดที่จํานวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่และทุกหน่วยงานยกระดับ การปฏิบัติงาน
เพื่อการตรวจสอบและกํากับติดตามการเปิดดําเนินการของสถานที่ การดําเนินกิจการและ กิจกรรมต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันและควบคุมโรค และตามแผนปฏิบัติการรองรับการเปิดประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะได้มีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายนี้ เป็นระยะ

ทั้งนี้ ให้กรุงเทพมหานครและจังหวัดเตรียมความพร้อมโดยจัดให้มีระบบศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operations Center : EOC) เพื่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่อย่างบูรณาการ โดยอาจขอรับการสนับสนุนจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) และให้ หน่วยงานที่รับผิดชอบยกระดับการปฏิบัติงานของศูนย์ประสานงานข้อมูล (call center) ในทุกระบบเพื่อ การดําเนินงานอย่างสอดคล้อง พร้อมรองรับการให้ความช่วยเหลือและบริการแก่ประชาชน

9. กรณีคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้มีมติให้ ออกประกาศหรือคําสั่ง ให้ส่งประกาศหรือคําสั่งให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) โดยเร็ว เพื่อรายงานสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบ ประกาศหรือคําสั่งโดยทั่วกัน