แม้ว่ารัฐบาลจะเดินหน้านโยบายขับเคลื่อนการท่องเที่ยวแบบ quick win หรือเร่งให้เกิดผลอย่างรวดเร็วด้วยการออกมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา หรือ visa free ชั่วคราวสำหรับชาวจีน 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 แต่ภาพรวมการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยยังไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
กล่าวคือ มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาอยู่ในระดับ 8,000-9,000 คนต่อวัน ใกล้เคียงกับช่วงที่ยังไม่มีมาตรการดังกล่าว หลายฝ่ายจึงมองว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามาตรการ “วีซ่าฟรี” ของรัฐบาลยังไม่สามารถขับเคลื่อนนักท่องเที่ยวตลาดจีนได้
- MOTOR EXPO 2023 ยอดขายรถ 4 วันแรกทะลุ 8,300 คัน
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
- สพฐ.ประกาศหยุดเรียน 4-8 ธ.ค.ให้นักเรียน ม.ปลายเตรียมสอบ TGAT/TPAT
“ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร” นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ให้ข้อมูลว่า ในช่วง 10 ปีก่อน นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยมีสัดส่วนของ “กรุ๊ปทัวร์” อยู่ที่ราว 70-80% และกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ราว 20-30% และปรับสัดส่วนเป็น 50 : 50 ในช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือประมาณปี 2562
หากประเมินตามสถิตินี้จะพบว่า ในปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยจำนวน 10.99 ล้านคนนั้นเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางแบบ “กรุ๊ปทัวร์” ถึงประมาณ 5.5 ล้านคน
นั่นหมายความว่า หากรัฐบาลต้องการจำนวนนักท่องเที่ยว หรือต้องการให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาที่ 10-11 ล้านคนเทียบเท่ากับปี 2562 จำเป็นต้องขับเคลื่อนทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง และกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ไปพร้อมกัน
แต่หลังการระบาดของโควิด-19 นับตั้งแต่จีนเปิดประเทศ และให้บริษัทนำเที่ยวทำตลาด “กรุ๊ปทัวร์” ไปต่างประเทศได้ตั้งแต่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 นั้น รัฐบาลไทยยังไม่มีการกระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่ม “กรุ๊ปทัวร์” เลย
“การที่รัฐบาลพิจารณายกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ปัญหาใหญ่ของตลาดจีนคือ ประเด็นของความเชื่อมั่น เพราะที่ผ่านมามีกระแสข่าวในโซเชียลมีเดียในจีนว่ามาเที่ยวเมืองไทยไม่ปลอดภัย ทั้งเรื่องการถูกลักพาตัว หลอกลวงไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกจับไปขายอวัยวะ ฯลฯ”
ประเด็นการเร่งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวไทยเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องรีบแก้
“ศิษฎิวัชร” บอกอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับ 8 พันธมิตรบริษัทชั้นนำของจีน แต่พันธมิตรทั้งหมดนั้นมุ่งเน้นตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT เป็นหลัก
ดังนั้น สมาคมแอตต้าในฐานะกลุ่มทัวร์อินบาวนด์ (นักท่องเที่ยวขาเข้า) จึงมีแผนนำบริษัทนำเที่ยวไปโรดโชว์พบปะบริษัททัวร์ของจีน ณ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเฉิงตู ในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยเมื่อมาเที่ยวประเทศไทย
“การไปโรดโชว์ครั้งนี้ทางสมาคมแอตต้ามีแผนจะทำงานร่วมกับ ททท. และขอรับการสนับสนุนจาก ททท.ด้วย เพื่อช่วยกันกระตุ้นนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ และสร้างความมั่นใจให้บริษัททัวร์ในฝั่งจีนเกิดความมั่นใจและกล้าที่จะกลับมาเหมาที่นั่งสายการบินหรือกล้าที่จะชาร์เตอร์ไฟลต์กันอีกครั้ง”
พร้อมย้ำว่า สำหรับตลาดจีน “บริษัททัวร์” ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด และ “กรุ๊ปทัวร์” ก็ถือเป็นตลาดสำคัญในการที่ผลักดันวอลุ่มให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าหมาย
หากรัฐบาลไม่ใช้กลไกของ “บริษัททัวร์” เข้ามาช่วยทำตลาด และไม่กระตุ้นกลุ่ม “กรุ๊ปทัวร์” ประเทศไทยจะไม่มีโอกาสได้เห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนกลับมาได้ถึง 10 ล้านคนเหมือนในอดีตแน่นอน
