
“คิม โยจอง” น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวหาสหรัฐฯว่ากำลังทำ “สงครามตัวแทน” กับรัสเซีย ด้วยการส่งรถถังช่วยยูเครน
วันที่ 28 มกราคม 2566 อัลจาซีราห์รายงานว่า “คิม โยจอง” น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำเกาหลีเหนือ “คิม จองอึน” ออกมาประณามการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่จัดหารถถังให้ยูเครนใช้ต่อสู้กับรัสเซีย พร้อมกับกล่าวหาว่าสหรัฐฯกำลังล้ำเส้นแดง และทำสงครามตัวแทนเพื่อทำลายล้างรัสเซีย
- เปิดชื่อ 10 อันดับโรงเรียนดัง กทม. นักเรียนแห่สมัครสอบเข้า ม.1 สูงสุด
- Café Amazon เฉลยเอง ไวรัลนกหน้าร้านสะดวกซื้อ กำลังจะเกิดอะไรขึ้น?
- ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เสียชีวิต อายุ 55 ปี หลังซ้อมแข่งรถที่บุรีรัมย์
ความเห็นของเธอเมื่อวันศุกร์ ยังเน้นย้ำถึงการเป็นแนวร่วมระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซียเกี่ยวกับสงครามในยูเครน ขณะที่เกาหลีเหนือเองก็กำลังเผชิญหน้ากับสหรัฐฯและพันธมิตรในเอเชียเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่กำลังเติบโต
“ฉันกังวลอย่างมากต่อการที่สหรัฐฯยกระดับสถานการณ์ด้วยการจัดหายุทโธปกรณ์ทางทหารให้แก่ยูเครน เพื่อให้ยูเครานใช้ในการต่อสู้ภาคพื้นดิน” คิม โยจอง กล่าวในแถลงการณ์ ซึ่งนับเป็นการกล่าวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
“สหรัฐฯคืออาชญากรตัวฉกาจที่เป็นภัยคุกคามร้ายแรง และท้าทายต่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย และได้ผลักดันสถานการณ์ในภูมิภาคให้เข้าสู่ขั้นร้ายแรงดังปัจจุบัน” คิม โยจอง ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลี กล่าว
“ฉันไม่สงสัยเลยว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ที่สหรัฐฯและตะวันตกอวดอ้าง จะถูกเผามอดไหม้ต่อหน้าจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ไม่ย่อท้อและความกล้าหาญของกองทัพรัสเซีย และประชาชนชาวรัสเซียผู้กล้าหาญ” เธอกล่าวพร้อมเสริมว่า “เกาหลีเหนือจะยืนเคียงข้างรัสเซียเสมอ”
ความเห็นของ คิม โยจอง เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯระบุว่า จะส่งรถถัง M1 Abrams ไปยังยูเครน ขณะที่ก่อนหน้านี้เยอรมนีได้ตัดสินใจส่งรถถัง Leopard 2 A6 จำนวน 14 คัน ให้กับยูเครน
NEW: Kim Jong Un’s sister slammed the U.S. for sending tanks to Ukraine.
In a statement published by KCNA on Friday, Kim Yo Jong criticized Washington for “crossing the line” and exposing Europe to “grave danger.”https://t.co/9rIi0HWRSj
— NK NEWS (@nknewsorg) January 28, 2023
เธอกล่าวอีกว่า คณะบริหารของ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังก้าวข้าม “เส้นแดง” ด้วยการส่งรถถังไปให้ยูเครน และการตัดสินใจดังกล่าวสะท้อนถึง “ความตั้งใจอันชั่วร้ายเพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็นเจ้าโลก ด้วยการขยายสงครามตัวแทนเพื่อทำลายรัสเซีย”
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เกาหลีเหนือกล่าวหาสหรัฐฯว่าเป็นสาเหตุให้เกิดวิกฤตในยูเครน โดยยืนยันว่านโยบายเจ้าโลกของชาติตะวันตกบีบให้รัสเซียต้องเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของตนเอง
เกาหลีเหนือยังเป็นประเทศเดียวนอกเหนือจากรัสเซียและซีเรียที่ยอมรับเอกราชของโดเนตสก์และลูฮานสก์ ซึ่งเป็นสองภูมิภาคในยูเครนที่รัสเซียหนุนหลัง นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังเคยพูดเป็นนัยถึงแผนการส่งคนงานไปในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อช่วยในการฟื้นฟู
สหรัฐฯกล่าวหาเกาหลีเหนือว่าส่งกระสุนปืนใหญ่ไปให้รัสเซียเพื่อช่วยในการสู้รบกับยูเครน แต่เกาหลีเหนือปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือยังเร่งพัฒนาอาวุธของตัวเอง โดยทดสอบการยิงขีปนาวุธมากกว่า 70 ลูกในปี 2565 ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีปที่มีศักยภาพทางนิวเคลียร์ด้วย