ตอบโต้กันไปมาอย่างดุเดือดสำหรับมาตรการเก็บภาษีของสองชาติมหาอำนาจอย่าง “สหรัฐ-จีน” ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ มีคำสั่งให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR ) พิจารณาเก็บภาษีเพิ่มเติมในส่วนสินค้าที่สหรัฐซื้อจากจีน มูลค่าราว 100,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.13 ล้านล้านบาท)
สำนักข่าววีโอเอ รายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ แถลงวานนี้ว่า จีนเลือกทำร้ายเกษตรกรและผู้ผลิตของสหรัฐ เเทนที่จะเเก้ไขการกระทำให้ถูกต้อง เมื่อจีนตอบโต้อย่างไม่เป็นธรรม เขาจึงมีคำสั่งให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ พิจารณาว่าสมควรจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีกราว 100,000 ล้านดอลลาร์หรือไม่ โดยเขาพร้อมเจรจาก็ต่อเมื่อเป็นไปเพื่อให้การค้าเสรี เป็นธรรม และต่างตอบแทนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประกาศรายชื่อสินค้าของจีนชุดใหม่มูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ที่สหรัฐ จะพิจารณาเก็บภาษีเพิ่มดังกล่าวหรือไม่ เเต่จากการประกาศของผู้นำสหรัฐครั้งนี้ ก็ทำให้ดัชนี Dow futures ตกลงราว 400 จุด หลังจากที่ตลาดปิดทำการ
ซึ่งกรณีนี้มีขึ้นภายหลังจากจีนตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการประกาศรายชื่อสินค้า 106 รายการของสหรัฐ เช่น ถั่วเหลืองและเครื่องบิน มูลค่ารวมราว 50,000 ล้านดอลลาร์ ที่จีนจะเก็บภาษีเพิ่มเช่นกัน
ทั้งนี้ มาตรการขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐ ที่จีนเพิ่งประกาศไป มุ่งเป้าไปที่สินค้าภาคอุตสาหกรรมและการเกษตรเป็นหลัก คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อรัฐที่เป็นฐานเสียงสำคัญของทรัมป์ เช่น รัฐเท็กซัส และรัฐไอโอวา
ด้านทางการจีน ได้ยื่นคำร้องต่อองค์การการค้าโลกอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ เพื่อขอให้จัดการหารือกับสหรัฐที่เสนอเรื่องเก็บภาษีและดำเนินมาตรการกับสินค้าหลายประเภทที่ผลิตในจีน เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า หนึ่งในรายการสินค้าจีนกว่า 1,300 รายการที่จะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 รวมกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงโทษที่จีนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ