ดัชนีวัดราคาและอัตรากำไร/ขาดทุนของตราสารหนี้ (Bond) ทั่วโลกเดือนนี้พุ่งแรงสุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 หรือช่วงเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2023 บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ดัชนีวัดราคาและอัตรากำไร/ขาดทุนของตราสารหนี้ทั่วโลกทั้งของรัฐ (พันธบัตร) และภาคธุรกิจ (หุ้นกู้) ที่จัดทำโดยบลูมเบิร์ก (Bloomberg) เพิ่มขึ้นเป็น 4.9% ในเดือนพฤศจิกายน 2023 นี้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ที่เพิ่มขึ้น 6.2% ในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยลึกในเดือนธันวาคม 2008
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ในวันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2023 ราคาพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐรุ่นเก่าเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐลดลง 6 เบซิสต์พอยต์มาอยู่ที่ 4.26% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ลดลง 7 เบซิสพอยต์ มาอยู่ที่ 4.67% ส่วนมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียก็พุ่งสูงขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปี ร่วงลง 14 เบซิสต์พอยต์
ส่วนอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของตราสารหนี้ภาคเอกชนลดลงเหลือประมาณ 5.3% ในสัปดาห์นี้ หลังจากเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 6% ในเดือนตุลาคม ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009
Bloomberg Global Aggregate Total Return ซึ่งเป็น benchmark หรือเกณฑ์มาตรฐานวัดผลตอบแทนของตราสารหนี้ทั่วโลกลดลง 3.8% นับจากต้นปีจนถึงจุดต่ำสุดในช่วงกลางเดือนตุลาคม แต่ขณะนี้ปรับเพิ่มขึ้นแล้ว 1.4% นับจากต้นปี
ราคาและการซื้อขายตราสารหนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนพฤศจิกายนนี้ได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเก็งกำไรเพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกได้จบวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
เมื่อวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ (Christopher Waller) สมาชิกผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐช่วยสนับสนุนมุมมองนี้ โดยกล่าวว่าระดับนโยบายในปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการชะลอความร้อนแรงเศรษฐกิจและลดอัตราเงินเฟ้อ
เจมส์ วิลสัน (James Wilson) ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโออาวุโสของ Jamieson Coote Bonds ในเมลเบิร์น ออสเตรเลียกล่าวว่า วอลเลอร์เป็นสายเหยี่ยว ดังนั้น การที่เขาแสดงท่าทีผ่อนคลายถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะดูเหมือนว่าเฟดจะเสร็จสิ้นการขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้แล้ว
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาตราสารหนี้ในปัจจุบันเป็นเพียงการฟื้นตัวอีกครั้งในปีที่มีความผันผวนสูงในตลาดตราสารหนี้