ผู้ขับขี่หวั่น! หลังอังกฤษจ่อห้ามขายรถยนต์ใช้เบนซิน-ดีเซลปี”2040 กังวลกระทบด้านการเงิน

Peter Nicholls / Reuters

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า 1 ใน 5 ของผู้ขับขี่ในประเทศอังกฤษมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางการเงิน เเละแผนของรัฐบาลที่จะห้ามขายน้ำมันดีเซลและรถยนต์เบนซินในปี 2040

ผลสำรวจครั้งใหม่โดย AA Cars จากคนขับกว่า 18,500 คน มีเพียงร้อยละ 20 เปอร์เซ็นต์ กังวลว่ารถยนต์เบนซิล หรือดีเซลของตนเองนั้นจะสูญเสียคุณค่า เนื่องจากเเผนงานของรัฐบาล ส่วนหนึ่งของแผนการที่จะกำจัดรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเหล่านี้ให้หมดไปจากท้องถนนเพื่อมุ่งรักษาสิ่งแวดล้อม

แต่ในทางเป็นจริง รายงานระบุว่า ผู้ขับขี่กลัวผลกระทบในทางการเงิน มากกว่าผลกระทบต่อสิ่งเเวดล้อม มีเพียง 1 ใน 10 คน กล่าวว่าพวกเขากังวลว่าเครื่องยนต์ดีเซล เเละเบนซินจะมีผลกระทบต่อสิ่งเเวดล้อม

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สมาคมผู้ผลิตมอเตอร์เเละผู้ค้า เผยผลสำรวจพบว่าตลาดรถยนต์ใหม่ในสหราชอาณาจักรลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนตุลาคม โดยผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่อ้างถึงความไม่แน่นอนของตลาดที่เกิดขึ้นจากเบร็กซิท แต่ยังขาดความชัดเจนในเรื่องนโยบายดีเซลจากรัฐบาล

นายไซมอน เบนสัน ผู้อำนวยการฝ่ายบริการมอเตอร์ไซค์ของ AA Cars กล่าวว่า การสำรวจในครั้งนี้ช่วยให้เข้าใจถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดน้อยลง ด้วยอัตราเงินเฟ้อในทางเหนือและความไม่แน่นอนของเบร็กซิท ทำให้ผู้บริโภคในอังกฤษเริ่มชั่งใจในการซื้อรถ เพราะไม่ใช่การลงทุนเหมือนที่เคยเป็นมา

ตัวเลข SMMT แสดงให้เห็นว่ามีการจดทะเบียนรถใหม่เพียง 158,192 คันในช่วงเดือนที่ผ่านมาซึ่งลดลงมากกว่าร้อยละ 12 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเดียวกันในปี 2016 รถบรรทุกน้ำมันดีเซลมียอดขายลดลงถึง 29.9 เปอร์เซ็นต์

ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าในขณะที่ 67 เปอร์เซ็นต์ของผู้ขับขี่คิดว่าการห้ามใช้งานรถยนต์ดีเซล-เบนซิน เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งอาจไม่ส่งผลต่อการเลือกใช้รถในระยะ 2-3 ปี ทั้งนี้ผู้ขับขี่บางคนดูเหมือนจะทบทวนการตัดสินใจซื้อรถของพวกเขา

นอกจากนี้อีก 8 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อรถเบนซินและดีเซลเเละอีก 10 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า เมื่อพวกเขาจะซื้อรถใหม่ไม่ต้องการซื้อรถยนต์ดีเซล-เบนซินนั่นเอง