ทหารรัสเซียคนแรกขึ้นศาลยูเครน ไต่สวนคดีก่ออาชญากรรมสงคราม หลังถูกจับข้อหาฆ่าพลเรือนวัย 62 ปี
วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 รอยเตอร์ รายงานว่า ศาลยูเครนเริ่มรับฟังไต่สวนในคดีอาชญกรรมสงครามเป็นคดีแรก นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากสามารถจับกุมทหารรัสเซียหนึ่งนายในข้อหาฆาตกรรมพลเรือนวัย 62 ปี
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
รายงานระบุว่า ศาลแขวงกรุงเคียฟได้เปิดไต่สวนทหารรัสเซียที่ชื่อ วาดิม ชิชิมาริน (Vadim Shysimarin) วัย 21 ปี สังกัดกองยานเกราะที่ 4 แห่งกองทัพบกรัสเซีย (4th Guards Kantemirovskaya Tank Division) ภายใต้ข้อหา “ละเมิดกฎหมายและบรรทัดฐานทางสงคราม” หรือกฎหมายว่าด้วยการก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งถือเป็นคดีแรกที่ยูเครนจับทหารรัสเซียขึ้นไต่สวนในคดีดังกล่าว
อัยการยูเครนระบุว่า คดีนี้มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์อย่างมากสำหรับรัฐบาลเคียฟ หลังจากที่รัสเซียปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่ได้กระทำอาชญากรรมสงคราม หรือก่อเหตุทารุณใด ๆ ต่อพลเรือนยูเครน
สำหรับคดีมีการกล่าวหาว่า จ่าสิบเอก ชิชิมาริน ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ต่อสู้กับกองทัพยูเครนในภูมิภาคซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เขาได้สังหารพลเรือนรายหนึ่งในหมู่บ้านชูปาคิฟกา เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ถ้อยแถลงของสำนักอัยการระบุว่า ขณะสู้รบ กองยานเกราะของรัสเซียได้ถูกโจมตีอย่างหนัก จนทำให้ทหารรัสเซียต้องทิ้งยุทโธปกรณ์เพื่อหนี จ่าสิบเอก ชิชิมาริน พร้อมทหารรัสเซียอีก 4 นายได้ ขโมยรถยนต์ส่วนตัวของพลเรือนเพื่อพยายามหลบหนี ทว่าระหว่างการหลบหนีได้ถูกกองกำลังยูเครนสกัดไว้ได้ ส่งผลให้ทหารรัสเซียกลุ่มนี้ขับรถเข้าไปในหมู่บ้านชูปาคิฟกา ซึ่งชิชิมารินพบกับพลเรือนยูเครนวัย 62 ปีที่ไม่มีอาวุธและกำลังขี่จักรยานพร้อมคุยโทรศัพท์
สำนวนของอัยการยูเครนระบุว่า จ่าสิบเอก ชิชิมาริน ซึ่งได้รับคำสั่งจากกองทัพรัสเซียให้ปลิดชีพพลเรือนยูเครนหาว่าพบเห็นทหารรัสเซียเพื่อปิดปากพลเรือนยูเครนไม่ให้ชี้เป้าทหารรัสเซียได้ เขาจึงได้ใช้ปืนไรเฟิล AK-74 ซึ่งเป็นอาวุธประจำกาย ยิงสังหารพลเรือนคนดังกล่าวจากภายในรถยนต์ที่ใช้หลบหนีจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทว่าระหว่างหลบหนี จ่าสิบเอก ชิชิมาริน พลัดหลงกับเพื่อนทหารอีก 4 นาย กระทั่งถูกกองกำลังยูเครนจับกุม
ไม่ชัดเจน จ่าสิบเอก ชิชิมาริน มีสิทธิได้รับทนายประจำตัวเพื่อสู้คดีหรือไม่ ทั้งไม่ชัดเจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองทัพรัสเซียจะเข้ามาช่วยเหลือทางคดีหรือไม่ ขณะที่อัยการยูเครนและคณะผู้สอบสวนของหน่วยสืบราชการลับยูเครน (SBU) มั่นใจว่าจะมีหลักฐานเพียงพอเอาผิดฐานก่ออาชญกรรมสงคราม รวมถึงความผิดฐานฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ชิชิมารินอาจเจอโทษจำคุก 10 ถึง 15 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต
ด้านนาง มิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีตัวอย่างอาชญากรรมสงครามที่เป็นไปได้มากมาย นับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซีย และจนถึงขณะนี้ มีผู้พบศพแล้ว 1,000 ศพในภูมิภาคเคียฟ
ขณะที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ระบุเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 จะส่งคณะเจ้าหน้าที่รวมทีมอัยการยูเครน อัยการโปแลนด์ และอัยการลิทัวเนีย สำหรับลงพื้นที่เก็บหลักฐานและสอบสวนข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงครามต่อกองกำลังรัสเซีย