‘สมาร์ทโฟนจีน’ แห่ลดกำลังผลิต เอฟเฟ็กต์ ‘ล็อกดาวน์’ ทุบตลาด

‘สมาร์ทโฟนจีน’ แห่ลดกำลังผลิต

นโยบาย “ซีโร่โควิด” ของรัฐบาลจีน ส่งผลให้ภาคธุรกิจหยุดชะงักอีกครั้ง จากการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ในจีนจะคลี่คลายลงไปบ้างแล้ว แต่ผลกระทบต่อเนื่องจากการล็อกดาวน์ทำให้ซัพพลายเชนจีนยังไม่กลับมาสู่ภาวะปกติ และทำให้ความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนลดลง กลายเป็นปัจจัยที่บีบคั้นภาคธุรกิจ

นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำของจีนมีแผนปรับลดกำลังการผลิต โดย “วีโว่” และ “ออปโป้” ได้ปรับลดคำสั่งจากซัพพลายเออร์ลง 20% จากแผนการสั่งซื้อก่อนหน้านี้ เพื่อรักษาระดับสินค้าคงคลังที่เสี่ยงจะล้นช่องทางค้าปลีก ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานอย่างรุนแรง

ขณะที่ “เสี่ยวหมี่” ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของจีน และอันดับ 3 ของโลก ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายสมาร์ทโฟนของบริษัทลงจากเป้าหมายเดิม 200 ล้านเครื่อง เหลือราว 160-180 ล้านเครื่องในปีนี้ พร้อมแผนปรับลดคำสั่งซื้อจากซัพพลายเออร์ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ

แนวโน้มดังกล่าวแตกต่างไปจากช่วงต้นปี 2022 ที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนต่างมองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะเสี่ยวหมี่ที่มียอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกราว 191 ล้านเครื่องในปี 2021 และตั้งเป้าเพิ่มยอดขาย เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนโลกในปีนี้

แต่การล็อกดาวน์ส่งผลให้ความต้องการ ของผู้บริโภคชาวจีน ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของเสี่ยวหมี่และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนรายอื่นลดลงอย่างหนัก ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนและภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก ก็ส่งผลกระทบต่อการส่งมอบและความต้องการสมาร์ทโฟนจีนในตลาดโลกลดลงด้วย

ข้อมูลของ “อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น” (IDC) บริษัทวิจัยตลาดเทคโนโลยีระดับโลก ชี้ว่า ยอดการส่งมอบสมาร์ทโฟนของผู้ผลิตจีนโดยรวมลดลงอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาส 1/2022 โดยเสี่ยวหมี่มียอดการส่งมอบอยู่ที่ 39.9 ล้านเครื่อง ลดลง 17.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2021 ขณะที่ออปโป้ลดลง 26.8% และวีโว่ลดลงถึง 27.7%

“จ้าว ไห่จุน” ซีอีโอของ SMIC ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของจีน ระบุว่า “ความต้องการสมาร์ทโฟนทั่วโลกในปีนี้ คาดว่าจะลดลงอย่างน้อย 200 ล้านเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาร์ทโฟนสัญชาติจีน”

SMIC ยังเปิดเผยด้วยว่า บริษัทได้รับการยกเลิกคำสั่งซื้อชิป สำหรับการผลิตสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และเครื่องใช้เทคโนโลยีในครัวเรือนจำนวนมากจากผู้ผลิตจีน ส่งผลให้สัดส่วนชิปสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้ที่ SMIC ป้อนให้กับผู้ผลิตจีนลดลงจากราว 50% ของกำลังการผลิตทั้งหมด มาอยู่ที่ราว 29% ในขณะนี้

ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนยังต้องเผชิญการแข่งขันกับยักษ์สมาร์ทโฟนโลก อย่าง “ซัมซุง” ที่ซัพพลายเชนส่วนใหญ่อยู่ในเกาหลีใต้และเวียดนาม และมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนจีนไม่ถึง 1% ทำให้การล็อกดาวน์ของจีนไม่กระทบต่อยอดขายสมาร์ทโฟนของซัมซุง 270 ล้านเครื่องในปีนี้

ขณะที่ “แอปเปิล” แม้จะได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นแหล่งซัพพลายเออร์สำคัญ แต่ความต้องการในตลาดโลกยังคงแข็งแกร่ง และกลับมาเร่งเดินเครื่องการผลิตอีกครั้งหลังสถานการณ์ในจีนคลี่คลาย

แม้ว่าผู้ผลิตเหล่านี้จะได้รับผลกระทบจากสงครามและภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศเช่นกัน แต่การที่ไม่ได้พึ่งพิงตลาดจีนมากนักก็เป็นข้อได้เปรียบที่มีเหนือผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีน