กัญชา : สุญญากาศยังไปต่อ สรุปเนื้อหาร่าง พ.ร.บ. คุมกัญชา ที่ถูกถอนจากสภา

ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. …  ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ (กมธ.) พิจารณาแปรญัตติ เพื่อใช้เป็นกฎหมายควบคุมการปลดล็อกกัญชาในช่วง “สุญญากาศ” ถูกที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติให้ถอนออกจากระเบียบวาระการประชุมในการพิจารณาวาระ 2 เมื่อ 14 ก.ย. ทำให้ขณะนี้ ประเทศไทยยังคงอยู่ในภาวะที่ไม่มีกฎหมายเฉพาะควบคุมการใช้กัญชาต่อไปอีกระยะหนึ่ง

พรรคการเมือง 2 พรรค ได้แก่ ประชาธิปัตย์ (ปชป.) และเพื่อไทย (พท.) เป็นพรรคที่แสดงจุดยืนให้ กมธ. กลับไปปรับปรุงแก้ไขและทบทวนว่าจะสถานะกัญชาจะกลับมาอยู่ในกฎหมายยาเสพติดหรือไม่ หลังจากที่มีการปลดล็อกออกจากยาเสพติด ให้ครัวเรือนปลูกได้ และขายอย่างเสรี ไปเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2565

getty

ที่มาของภาพ, Getty Images

หลังจากนั้นจากกระแสความกังวลจากหลายฝ่ายที่ว่าการปลดล็อกดังกล่าว ไม่มีกฎหมายเฉพาะขึ้นมาควบคุมการใช้งานกัญชา ซึ่งเกี่ยวพันกับหลายมิติ เช่น ด้านสุขภาพ ผลกระทบต่อกลุ่มเด็กและเยาวชน ทำให้สภามีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. … ขึ้นมา ทว่า ร่างกฎหมายนี้ได้ถูกถอนออกจากสภาไปแล้วนั้น

สำหรับร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง ที่เข้าสภานั้น นายปานเทพ พัวพงพันธ์ โฆษก กมธ. แถลงข่าวที่รัฐสภา วันที่ 14 ก.ย. ว่ามีจำนวน 95 มาตรา

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของบีบีซีไทยบนเว็บไซต์ของสภาผู้แทนราษฎร พบว่าไฟล์ของร่างกฎหมายที่เผยแพร่กับระเบียบวาระการประชุมมีอยู่ 46 มาตรา

บีบีซีไทย ยังไม่สามารถติดต่อนายปานเทพ เพื่อขอคำชี้แจงในเรื่องนี้ได้

บีบีซีไทยรวบรวมประเด็นที่เกิดขึ้นระหว่างพรรคการเมืองที่ถอนร่างกฎหมายกัญชาออกไป และสรุปสาระสำคัญของร่างกฎหมายควบคุมกัญชาฉบับนี้

การถอนร่างกฎหมายของประชาธิปัตย์และเพื่อไทย หลังจากร่วมปลดกัญชาจากยาเสพติดไปแล้ว

ฝ่ายของ กมธ.ที่ร่างกฎหมายกัญชาขึ้นมา นายปานเทพ พัวพงพันธ์ โฆษก กมธ. แถลงว่าสิ่งที่ดำเนินการมาตั้งแต่ 9 มิ.ย. 65 รัฐบาลออกประกาศจำนวนมาก เพื่อคุ้มครองสังคมช่วงที่รอกฎหมาย แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ดีพอสมควร แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ที่มีความรัดกุมรอบคอบ

นายปานเทพ ได้ตั้งข้อสังเกตก่อนสภาฯ พิจารณา ท่ามกลางกระแสการถอนร่างกฎหมายออกว่า กัญชาถูกกำหนดให้ออกจากบัญชียาเสพติดเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 22 มิ.ย. 64 ที่มีการเปลี่ยนแปลงมาตรา 29 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งไม่ปรากฎรายชื่อกัญชาในบัญชียาเสพติดประเภท 5 อีกต่อไป การประชุมร่วมรัฐสภาครั้งนั้น ไม่ปรากฎว่ามีการขอแก้ไขมาตรา 29 ทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย

24 ส.ค.64 ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ลงมติเห็นชอบประมวลกฎหมายยาเสพติด ฉบับใหม่ ด้วยคะแนน 467 เสียง เป็นเอกฉันท์ โดยไม่มีส.ส.ทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ออกเสียงคัดค้านประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ไม่มีกัญชาแม้แต่คนเดียว แปลว่าท่านมีส่วนร่วมอย่างยิ่งในการนำกัญชาออกจากยาเสพติด

หลังจากนั้น การปลดล็อคกัญชาก็ผ่านอีกหลายด่านอันเป็นการปลดล็อคกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

มติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เมื่อ 8 ก.พ.65 และให้มีผลบังคับใช้วันที่ 9 มิ.ย.65

ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่ 27 ม.ค.65 สภาฯ มีมติรับหลักการ 8 มิ.ย.65 ผลการลงมติปรากฎว่าเสียงข้างมากในสภา เห็นชอบมากกว่า 273 เสียง และเสียงข้างมากทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย เห็นชอบด้วยในการรับหลักการของกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งวาระรับหลักการร่างกฎหมายฉบับนี้มีเพียง 45 มาตรา ยังได้รับความเห็นชอบเกือบเป็นเอกฉันท์

นายปานเทพ กล่าวว่า แต่เมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขจากคณะ กมธ.ฯ ได้มีการปรับเพิ่มขึ้นเพื่อความรัดกุมเป็น 95 มาตรา ซึ่งล้วนแต่มีบทบัญญัติควบคุมสังคม เยาวชน สถานที่ขาย และวิธีการใช้ เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้หละหลวมตามที่เป็นห่วง

gety

ที่มาของภาพ, Getty Images

ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย-ก้าวไกล ว่าอย่างไร

นายประเสริฐ  จันทรรวงทอง  เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อ 15 ก.ย. ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นการเมือง เพราะเมื่อ กมธ.วิสามัญฯพิจารณาเสร็จแล้วก็เอาการบ้านมาส่ง แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นผู้พิจารณามองว่า การบ้านที่ให้ไปคือการตัดกางเกงขาสั้น แต่การบ้านที่เอามาส่งคือกางเกงขายาว เพราะแต่เดิมมี 40 กว่ามาตรา ปรากฏว่ากลับไปกลับมา 90 กว่ามาตรา ซึ่งเป็นการเพิ่มมาตราที่เกินผิดปกติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

“ถ้าเป็นเรื่องการใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ไม่มีใครติดใจ แต่วันนี้มีการนำเอากัญชาไปใช่ในเรื่องสันทนาการ ซึ่งอาจจะเกินเลยไป  ดังนั้นสภาจึงระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่ได้มีเจตนาทางด้านการเมือง”

ส่วนนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวมีปัญหา แพทย์ ครอบครัว ยังมีความวิตกกังวล พร้อมยืนยันว่า แม้จะตีกลับกฎหมายดังกล่าว แต่ไม่ได้ทำให้ตกไป กมธ. ยังสามารถนำไปปรับปรุงแก้ไข ป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงกัญชาโดยง่าย ก่อนเสนอกลับเข้าสู่ที่ประชุมใหม่ได้อีกครั้ง

ส่วนข้อครหาว่าเป็นเกมการเมือง นายสาทิตย์ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นเกมการเมือง เพราะก่อนหน้าที่พรรคประชาธิปัตย์จะมีมติไม่ได้ประสานกับพรรคใดเลย และเห็นว่ามติที่ให้ถอนร่างก็มีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่การเอาคืนกับการในเรื่องกฎหมาย กยศ.

ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ปัญหาสุญญากาศทางกฎหมายเพื่อจำกัดการควบคุมกัญชา ปัญหามาจากการออกประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ปลดล็อคกัญชาออกจากสารเสพติด โดยที่ไม่ได้มีกฎหมายมารองรับ

เลขาธิการพรรคก้าวไกล ย้ำว่าพรรครัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขในฐานะที่มีอำนาจที่จะออกประกาศยกเลิกประกาศปลดล็อคยาเสพติดออกไปก่อน เพื่อรอให้มีกฎหมายเข้ามาควบคุมก่อนค่อยปลดล็อคก็ได้  ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้เลย และลดผลกระทบจากปัญหาสุญญากาศทางกฎหมายกัญชาเสรีลงไปได้เฉพาะหน้า

Getty

ที่มาของภาพ, Getty Images

สรุปเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ. กัญชาฯ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ

สำหรับร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ… ฉบับ กมธ. ที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของสภาผู้แทนราษฎร มีบทบัญญัติเรื่องการอนุญาต การจดแจ้ง การผลิต การปลูก รวมไปถึง การคุ้มครองบุคคลซึ่งอาจได้รับอันตรายจากการบริโภคกัญชา กัญชง หรือสารสกัดและการป้องกันการใช้กัญชา กัญชง หรือสารสกัดในทางที่ผิด รวมไปถึงบทลงโทษทั้งปรับและจำคุก รวมทั้งสิ้น 46 มาตรา

เนื้อหาโดยสรุปบางมาตราในร่าง พ.ร.บ. ได้แก่

  • ผู้ที่เพาะปลูกกัญชาหรือกัญชง หรือผลิต นําเข้า ส่งออก หรือขายกัญชา กัญชง หรือสารสกัด ต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต (มาตรา 15) และใบอนุญาตมีอายุ 3 ปี (มาตรา 17)
  • ผู้ใดเพาะปลูกกัญชาหรือกัญชงโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งมีขนาดพื้นที่เพาะปลูกแตกต่างกันไป 3 ขนาด  ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
  • ผู้ใดนําเข้ากัญชา กัญชง หรือสารสกัด โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
  • ปลูกกัญชา /กัญชง ในครัวเรือนได้ไม่เกินครัวเรือนละ 15 ต้น (มาตรา 18) ต้องจดแจ้งจากผู้รับจดแจ้ง ใบรับจดแจ้งมีอายุ 1 ปี (มาตรา 20)
  • ห้ามโฆษณาหรือทําการสื่อสารการตลาดเกี่ยวกับช่อดอกหรือยางของกัญชา สารสกัด หรือเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสูบกัญชา เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต (มาตรา 28)
  • การโฆษณาหรือการสื่อสารการตลาดเกี่ยวกับกัญชาหรือกัญชงที่ไม่ใช่กรณีต้องห้าม ต้องไม่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือใช้ข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม (มาตรา 30/1)
  • ห้ามขายกัญชา กัญชง ทั้งการนำไปบริโภคเป็นสารสกัดหรืออาหารที่มีกัญชา หรือสารสกัดเป็นส่วนประกอบหรือวัตถุดิบ กับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปี  สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร บุคคลอื่นใดตามที่ รมว. สาธารณสุขประกาศกําหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ (มาตรา 37)

ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 37 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

  • ห้ามขายช่อดอก ยาง สารสกัดจากกัญชา/กัญชงเพื่อการสูบ ด้วยเครื่องขายอัตโนมัติ, ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์, ห้ามแถมกับสินค้าอื่น, ห้ามเร่ขาย, ชิงโชคหรือชิงรางวัล, ห้ามแสดงราคา ณ จุดขายในลักษณะจูงใจให้บริโภคช่อดอกหรือยางของกัญชาหรือกัญชง หรือสารสกัด (มาตรา 37/1)

หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 60,000-100,000 บาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือน-1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

  • ห้ามขายกัญชาในวัดหรือสถานที่สําหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา, สถานศึกษา, หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก, สวนสาธารณะ สวนสัตว์และสวนสนุก, สถานที่อื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ (มาตรา 37/2)

ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

  • ห้ามขายอาหารที่มีกัญชา/ กัญชงเป็นส่วนประกอบหรือวัตถุดิบในสถานศึกษา (มาตรา 37/3)

ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท

  • ห้ามผู้ใดสูบกัญชา กัญชง หรือสารสกัดในสถานที่สาธารณะและสถานที่หรือบริเวณดังต่อไปนี้ ได้แก่ วัด สถานบริการสาธารณสุขทั้งของรัฐเว้นแต่บริเวณที่จัดให้ผู้ป่วย ร้านขายยา สถานที่ราชการเว้นแต่บริเวณที่พักส่วนบุคคล สถานศึกษาเว้นแต่เพื่อการเรียน สถานีบริการน้ำมัน สวนสาธารณะ สวนสนุก ร้านอาหาร และยานพาหนะ (มาตรา 37/4)

ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท

  • ห้ามผู้ใดขับขี่ยานพาหนะในขณะมึนเมากัญชา กัญชง สารสกัด หรืออาหารตามกฎหมาย (มาตรา 37/7) เจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดขับขี่ และทดสอบระดับความมึนเมาได้

ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

…..

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว