มาลกี วัย 10 ขวบ ลุกจากที่นอนด้วยความตื่นเต้น
เธอตื่นก่อนพี่น้องชายหญิงอีก 4 คนของเธอ 1 ชั่วโมง เพื่อที่จะมาขูดสีทาเล็บสีแดงออกจากเล็บ
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
- BITE SIZE : ถอนเงินไม่ใช้บัตร ข้ามแบงก์ได้แล้ว ธนาคารไหนรองรับบ้าง
วันนี้เป็นวันแรกที่เธอได้กลับไปเรียนหนังสือ เธอจึงอยากให้จะทุกอย่างดูดี
แต่พี่น้องของเธอต้องอยู่บ้าน ครอบครัวของเธอสามารถส่งลูกไปโรงเรียนได้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
เมื่อ 6 เดือนก่อน ศรีลังกาเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชมา
พื้นที่ส่วนใหญ่ในศรีลังกาเริ่มกลับสู่ความสงบแล้ว ครอบครัวจำนวนมากรับรู้ถึงผลกระทบของการที่คนตกงานจำนวนมากและราคาข้าวของที่สูงขึ้นแล้ว
ฝันร้ายของพ่อแม่
ปริยันธิกา แม่ของมาลกี ต้องให้ลูก ๆ เลิกเรียนหนังสือ เพื่อให้มาขายดอกไม้ไฟหาเงิน
ราคาอาหารในศรีลังกาสูงถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอนที่เงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่เกือบ 95%
บางวัน ไม่มีใครในครอบครัวของมาลกีได้กินอาหารเลย
แม้ว่าจะไม่เสียค่าเล่าเรียนในศรีลังกา แต่ต้องจ่ายค่าอาหาร
เมื่อต้องซื้อเครื่องแบบและเสียค่ารถในการเดินทางอีก ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาจึงเป็นเรื่องที่ปริยันธิกาไม่สามารถแบกรับอีกต่อไป
เธอบอกว่า หากให้ลูกกลับไปเรียนหนังสือ เธอต้องใช้เงินราว 400 รูปีต่อวัน (ประมาณ 37 บาท) สำหรับให้ลูกแต่ละคน
เธอปาดน้ำตา ขณะนั่งอยู่บนเตียงที่ทุกคนนอนร่วมกันในบ้านที่มีห้องนอนห้องเดียว
“เด็ก ๆ ทุกคนเคยไปเรียนหนังสือทุกวัน ตอนนี้ฉันไม่มีเงินส่งพวกเขาแล้ว” เธอกล่าว
มาลกีสามารถไปโรงเรียนได้ เพราะเธอยังใส่รองเท้าและเครื่องแบบนักเรียนได้อยู่
แต่ดูลันจาลี น้องสาวของเธอ ต้องนอนร้องไห้บนเตียง รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ไปโรงเรียนในวันนี้
“ลูกรัก อย่าร้องเลย” ปริยันธิกา กล่าว “แม่จะพยายามและพาลูกไปพรุ่งนี้”
การศึกษาที่พังยับ
ขณะที่พระอาทิตย์ขึ้น เด็ก ๆ ที่ได้ไปโรงเรียนต้องรีบเดินทางไปบนถนนลูกรังในชุดเครื่องแบบนักเรียน กระโดดขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์หรือไม่ก็รถตุ๊กตุ๊ก
อีกฝั่งหนึ่งของเมือง ปรากรามา วีระสิงเห ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า
เขาเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมโคตาเฮนา เซ็นทรัล ในกรุงโคลอมโบ และได้เห็นถึงปัญหาเศรษฐกิจในแต่ละวัน
“เมื่อเริ่มวันในโรงเรียน เราจะมีการเข้าแถวตอนเช้า เด็ก ๆ อาจเป็นลมได้เพราะความหิว” เขากล่าว
รัฐบาลระบุว่า ได้เริ่มแจกข้าวให้แก่โรงเรียนต่าง ๆ แล้ว แต่โรงเรียนหลายแห่งที่บีบีซีติดต่อไป ระบุว่า พวกเขายังไม่ได้รับความช่วยเหลือ
นายวีระสิงเห กล่าวว่า อัตราการเข้าเรียนลดลงต่ำถึง 40% ก่อนที่เขาจะถูกบังคับให้ขอให้ครูหาอาหารเข้ามา เพื่อให้นักเรียนกลับมาเรียนหนังสือ
- ศรีลังกา : เมื่อมวลชนลุกฮือโค่นอำนาจผู้นำ เป็นบทเรียนต่อไทยหรือไม่
- ศรีลังกา : “ลูก ๆ ของเราคงไม่ตาย ถ้าเราไม่ต้องต่อคิวรอเติมน้ำมัน”
- ศรีลังกา : วิกฤตที่เกิดขึ้นในศรีลังกากำลังส่งสัญญาณเตือนประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย
โจเซฟ สตาลิน เป็นเลขาธิการใหญ่ของสหภาพครูซีลอน (Ceylon Teachers Union)
เขาเชื่อว่า รัฐบาลตั้งใจที่จะเพิกเฉยต่อจำนวนครอบครัวที่ต้องยอมให้ลูกเลิกเรียนเพราะรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว
“ครูของเราเป็นครูที่เห็นกล่องอาหารกลางวันเปล่า ๆ” เขากล่าว “เหยื่อที่แท้จริงของวิกฤตเศรษฐกิจคือ เด็ก ๆ”
“พวกเขา (รัฐบาล) ไม่หาคำตอบสำหรับปัญหานี้ ยูนิเซฟและองค์กรอื่น ๆ ได้เห็นและชี้ถึงปัญหานี้ แทนที่จะเป็นรัฐบาลศรีลังกา”
ยูนิเซฟ ระบุว่า จะเป็นเรื่องยากลำบากมากขึ้นสำหรับผู้คนในการหาเลี้ยงตัวเองในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้ เพราะเงินเฟ้อในต้นทุนของสินค้าจำเป็นอย่างข้าวยังคงทำลายครอบครัวต่าง ๆ อยู่
คาดว่า จะมีเด็กทั่วประเทศถูกบังคับให้เลิกเรียนหนังสือเพิ่มมากขึ้น
ความหวังสุดท้าย ?
การที่รัฐบาลดูเหมือนว่า จะไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ได้ องค์กรการกุศลต่าง ๆ จึงต้องก้าวเข้ามา
ซามาทา ซารานา (Samata Sarana) เป็นองค์กรการกุศลศาสนาคริสต์ซึ่งช่วยเหลือคนยากจนในกรุงโคลอมโบมานาน 30 ปีแล้ว
ตอนนี้ ห้องอาหารขององค์กรนี้ เต็มไปด้วยนักเรียนที่หิวโหยจากโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วกรุงโคลอมโบ
แม้ว่าองค์กรการกุศลแห่งนี้สามารถช่วยเหลือเด็ก ๆ ได้ราว 200 คนในแต่ละวัน แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ได้ตามนี้
“พวกเขาให้อาหารเรา จัดหารถบัสพากลับบ้าน พวกเขาให้เราทุกอย่าง ดังนั้นตอนนี้เราเรียนหนังสือได้” มาโนช วัย 5 ขวบ กล่าว ขณะกำลังต่อแถวรับอาหารกลางวันพร้อมกับกลุ่มเพื่อน
ตอนที่มาลกีกลับถึงบ้านในวันแรกของการกลับเข้าเรียน เธอเล่าให้แม่ฟังว่า สนุกแค่ไหนที่ได้เห็นหน้าเพื่อน ๆ อีกครั้ง
แต่เธอก็บอกแม่ด้วยว่า เธอต้องใช้หนังสือเล่มใหม่และบอกว่า คุณครูกำลังขอเงินพิเศษสำหรับซื้อวัสดุต่าง ๆ ในโครงการของทางโรงเรียน
เงินที่ทางครอบครัวของเธอไม่มี
“ถ้าเราสามารถหาข้าวกินในวันนี้ได้ เราก็จะกังวลว่า ทำอย่างไรถึงจะมีอะไรกินในวันพรุ่งนี้” ปริยันธิกา กล่าว
“นั่นได้กลายเป็นชีวิตของเราไปแล้ว”
……….
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว