เดอะมอลล์ ผนึก SET ปลูกป่าบ้านนาหวาย จ.น่าน 30.5 ไร่

วันที่ 8 ตุลาคม 2565 - 09:19 น.

เดอะมอลล์ กรุ๊ป “Green Retail” แห่งแรกของประเทศไทย มุ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยการเดินหน้าโครงการ “The Mall Go Green” โดยยึดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs), แนวทางพัฒนา BCG (Bio-Circular-Green Economy) และ ESG (Environment-Social-Governance) ในการดำเนินงาน

เดอะมอลล์ กรุ๊ป จึงร่วมสนับสนุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สานต่อโครงการ Care the Wild “ปลูกป้อง” (Plant & Protect) ส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อเป้าหมายลดภาวะโลกร้อน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านกิจกรรม “ปลูกต้นไม้ให้ได้ผืนป่า” 30.5 ไร่ เนื่องในวันโอโซนโลก 16 กันยายน 2565 ที่ป่าชุมชนบ้านนาหวาย อ.นาหมื่น จ.น่าน

โครงการ Care the Wild นี้ถือเป็น collaboration platform ซึ่งเป็นกลไกเพื่อการระดมทุนในการปลูกต้นไม้ใหม่ ปลูกต้นไม้เสริม และส่งเสริมการดูแลต้นไม้ โดยผ่านภาคีองค์กรเครือข่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยเน้นการร่วมดูแลต้นไม้ที่ปลูกให้เติบโต

จนกลายเป็นผืนป่าอย่างแท้จริง ซึ่งผู้ระดมทุนปลูกสามารถติดตามและเรียนรู้การเติบโตของไม้ การทำงานของชุมชน การมีส่วนร่วมในการขยายผลเพื่อพัฒนาชุมชน และร่วมดูแลเอาใจใส่ไม้ที่ปลูก ผ่านแอปพลิเคชั่น Care the Wild

โดยสนับสนุนการปลูกไปแล้ว 10 แห่งใน 9 จังหวัด รวมเนื้อที่ปลูกทั้งสิ้น 312.5 ไร่ ทั้งยังช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ 562,500 Kg.Co2e

“ณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์” ผู้อำนวยการใหญ่การตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะ Green Retail แห่งแรกของประเทศไทย ทั้งยังเป็นภาคีสมาชิกของ The Climate Neutral Network (CN Net) ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UN Environment Programme : UNEP) จึงเดินหน้าโครงการ The Mall Go Green เพื่อตั้งเป้าหมายในการเป็นองค์กรภาคเอกชนที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้สุทธิเป็นศูนย์ (carbon neutral) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ที่ 20-25% ภายในปี 2573

“การได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยกรมป่าไม้ เพื่อสานต่อโครงการ Care the Wild ปลูกป้อง (Plant & Protect) ในวันโอโซนโลก 16 กันยายน 2565 เท่ากับเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ในการมุ่งสู่ห้างสรรพสินค้าสีเขียว และลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”

สำหรับกิจกรรมปลูกต้นไม้ให้ได้ผืนป่า ณ ป่าชุมชนบ้านนาหวาย อ.นาหมื่น จ.น่าน เป็นการปลูกป่าจำนวน 30.5 ไร่ รวม 6,100 ต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า ลดความแห้งแล้ง และลดโลกร้อน ซึ่งป่าแห่งนี้จะช่วยดูดซับมลพิษ ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 54,900 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

อีกทั้งยังสร้างแหล่งอาหาร รวมถึงจะส่งผลให้ได้ใช้ประโยชน์จากต้นน้ำเพื่อการเกษตรที่สมบูรณ์ สร้างพืชเศรษฐกิจให้ชุมชน สร้างอาชีพจากเกษตรแปรรูป เช่น มะขามแช่อิ่ม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น

ขณะที่พันธุ์ไม้ที่ชุมชนบ้านนาหวายเลือกปลูกในป่าชุมชนบ้านนาหวาย อ.นาหมื่น จ.น่าน จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ หนึ่ง ไม้ป่ายืนต้น ได้แก่ ไม้ประดู่ ไม้มะค่าโมง ไม้พะยูง งิ้วดอกแดง ไม้สัก มะขามป้อม ต๋าว และพืชวนเกษตร สอง ไม้ผล ได้แก่ มะม่วง มะขามเปรี้ยวฝักยักษ์ มะม่วงหิมพานต์ ไผ่ซางหม่น เงาะ ลิ้นจี่ ลำไย อะโวคาโด กาแฟ

“ณัฐศมน” กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเดอะมอลล์ กรุ๊ป ดำเนินนโยบายสนับสนุนการช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดการด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมในกลุ่มอาคาร จนได้รับรางวัลจากโครงการ Thailand Energy Awards ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2558-2564

การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างความยั่งยืนให้กับผืนป่าประเทศไทยจะสำเร็จได้ต้องมาจากการร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว และปกป้องผืนป่า ซึ่งการฟื้นฟูระบบนิเวศจากแหล่งต้นน้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ จะช่วยสร้างแหล่งอาหารสร้างรายได้แก่ชุมชนให้อยู่ร่วมกันกับป่าอย่างยั่งยืน

สำหรับองค์กร ผู้ที่สนใจมีส่วนร่วมในการขยายผลเพื่อพัฒนาชุมชน และร่วมดูแลเอาใจใส่ไม้ปลูกให้เติบโตเป็นส่วนสำคัญของการขยายแนวผืนป่าของไทย สามารถร่วมปลูกป่าผ่านโครงการ Care the Wild ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.setsocialimpact.com/carethewild/ หรือสอบถามเพิ่มเติม SET Contact Center 0-2009-9999