ชะลอปล่อยน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ท่วมพื้นที่เกษตร 3 จังหวัด

กรมชลประทาน เตรียมชะลอปริมาณน้ำที่ไหลหลากมาจากตอนบน โดยใช้พื้นที่ว่างบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เเจ้งด่วน!ส่งผลกระทบ 3 จังหวัด อุทัยธานี-ชัยนาท-นครสวรรค์ รับน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมสองฝั่ง

วันที่ 5 ตุลาคม 2565 รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ระบุ รายงานสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยาปัจจุบัน (5 ตุลาคม 2565) เมื่อเวลา 16.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,008 ลบ.ม./วินาที

สมทบกับแม่น้ำสะแกกรังผ่านสถานีวัดน้ำ Ct.19 จ.อุทัยธานี วัดได้ 367 ลบ.ม./วินาที พร้อมทั้งบริหารน้ำโดยใช้ระบบชลประทานฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์อัตรา 2,700-2,800 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที

โดยในช่วงวันที่ 3-9 ตุลาคม 2565 กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศว่า อิทธิพลจากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งผลให้มีน้ำไหลหลากผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น

ประกอบกับมีน้ำฝน น้ำท่าไหลหลากลงคลองชัยนาท-ป่าสัก และแม่น้ำท่าจีน ก่อนจะไหลรวมกับแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ในเกณฑ์ 2,700-2,800 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที นั้น

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณลุ่มต่ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ว่างบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.30 เมตร

โดยน้ำจะเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมสองฝั่งเข้าพื้นที่การเกษตรและชุมชนริมน้ำนอกคันกั้นน้ำ จ.ชัยนาท อ.เมืองชัยนาท อ.วัดสิงห์ อ.มโนรมย์ จ.อุทัยธานี อ.เมืองอุทัยธานี จ.นครสวรรค์ อ.พยุหะคีรี

จึงขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ