สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จับมือหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม เปิดศักราชใหม่ กระตุ้นการค้าทะลุเป้า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2025
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม เปิดเผยว่า ภายหลังสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำประเทศไทย จัดสัมมนา Thailand-Vietnam Business Forum 2022 เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยได้รับเกียรติจากนายเหงียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นำคณะ ภาครัฐและเอกชนเวียดนามเข้าร่วม ประกอบด้วย นายเจิ่น กว๊วก เฟือง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน นายฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตเวียดนาม ประจำประเทศไทย และนายฟาม ตั่น กง ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเวียดนาม
ส่วนฝั่งไทยได้รับเกียรติจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาร่วมในงาน โดยงานดังกล่าวเป็นเวทีสำคัญในการยกระดับความร่วมมือทางการค้าการลงทุนระหว่างไทยและเวียดนาม เพิ่มศักยภาพในความร่วมมือของภาคธุรกิจของ 2 ประเทศในทุกมิติ ภายในงานมีภาคธุรกิจชั้นนำ ทั้งไทยและเวียดนาม รวมถึงคนไทยเชื้อสายเวียดนามเข้าร่วมกว่า 400 คน
นายเหงียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม กล่าวเน้นย้ำว่า ไทยคือประเทศหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่สำคัญของเวียดนาม ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในเวียดนามแล้วกว่า 670 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จัดเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศที่ลงทุนในเวียดนามมากที่สุด ซึ่งไทยและเวียดนามตั้งเป้าหมายร่วมกันที่จะทำให้มูลค่าการค้าของ 2 ประเทศถึง 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2025 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสูงเกินเป้าได้ถึง 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นของ 2 ประเทศนับจากนี้ไป
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ไทยและเวียดนาม มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือในมิติใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ โดยเฉพาะ “เศรษฐกิจดิจิทัล” ซึ่งทั้ง 2 ประเทศได้ส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการทำธุรกรรมระหว่างกัน เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งในการค้าและการท่องเที่ยว ซึ่งได้พัฒนาเป็นนวัตกรรมด้านการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม หรือ Cross-border QR Payment ซึ่งสามารถใช้งานจริงได้แล้ววันนี้
นับว่าเป็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมของความร่วมมือด้านนวัตกรรมทางการเงินระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกลางเวียดนาม ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2019 และถือเป็นก้าวสำคัญของการเชื่อมโยงการชำระเงินในอาเซียน ASEAN Payment Connectivity เพื่อส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของระบบการเงินในภูมิภาค
ในส่วนของภาคเอกชนไทยนั้น นายสนั่นกล่าวว่า การเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานาธิบดีเวียดนามในรอบ 24 ปี นับเป็นก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ
โดยในโอกาสนี้ ภาคเอกชนไทยและเวียดนาม ยังได้ร่วมกันลงนาม บันทึกความเข้าใจระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กับหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเวียดนาม เพื่อยกระดับความร่วมมือของเอกชน และตอบโจทย์รูปแบบการค้าการลงทุนในปัจจุบัน โดยเฉพาะการสนับสนุนกลุ่ม Micro SMEs และ Startup ของไทยและเวียดนามให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง
รวมถึงที่ผ่านมาได้มีการส่งเสริมบทบาทกลุ่มสตรีและกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC หอการค้าไทย (Young Entrepreneur Chamber of Commerce) ให้เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของเวียดนาม หรือ Vietnam Young Entrepreneurs Association (VYEA) ดังนั้น เชื่อว่านับจากนี้ไทยและเวียดนามจะร่วมกันยกระดับความร่วมมือในลักษณะของ Vietnam-Thailand Economic Connectivity กันในทุกระดับ ทั้งระดับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน อย่างแท้จริง
นายฟาม ตั่น กง ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม กล่าวเพิ่มเติมว่า เอกชนเวียดนามมีความต้องการร่วมมือกับภาคธุรกิจไทย ในการลงทุนด้านธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจพลังงาน รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ไทยยังเป็นประเทศที่มีความสวยงามและมีความพร้อมในแง่การลงทุนและการอำนวยความสะดวก ซึ่งการเดินทางเยือนไทยและร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงของเอกชน 2 ประเทศในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะสนับสนุนการค้า การลงทุน ให้เกิดขึ้นตามเป้าหมายที่ทั้ง 2 ประเทศมุ่งหวังไว้
การจัดสัมมนา Thailand-Vietnam Business Forum 2022 เกิดขึ้นภายหลังที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนไทย กับหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม หรือ VCCI ที่เป็นผู้แทนภาคเอกชนเวียดนาม ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างภาคเอกชนของ 2 ประเทศ
โดยมีเนื้อหาสำคัญ คือ การปรับปรุงความร่วมมือระหว่างเอกชน 2 ประเทศให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์รูปแบบการค้าการลงทุนในปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับ BCG Model (Bio-Circular-Green) ที่เป็นนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ของไทยกับนโยบายเศรษฐกิจสีเขียวของเวียดนาม
โดยได้รับเกียรติจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายเหงียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแลกเปลี่ยนความตกลง และแถลงการณ์ร่วมกระชับความสัมพันธ์ทุกสาขา เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล