ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2% หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกตึงตัว
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2% จากความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังตลาดคาดการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. 66 ทางกลุ่มมีแนวโน้มจะคงนโยบายลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์มองว่าซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้นำกลุ่ม จะยังคงการลดกำลังการผลิตที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันต่อไปจนถึงไตรมาส 2 ถึง 3 ของปีหน้า
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
- BITE SIZE : ถอนเงินไม่ใช้บัตร ข้ามแบงก์ได้แล้ว ธนาคารไหนรองรับบ้าง
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 28 พ.ย. 2566 อยู่ที่ 76.41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.55 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 81.68 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.70 เหรียญสหรัฐ
คาซัคสถานปรับลดกำลังการผลิตลงกว่า 56% เนื่องจากพายุที่ขัดขวางการขนส่งน้ำมันดิบในทะเลดำ โดยกระทรวงพลังงานของคาซัคสถานระบุว่ายังไม่สามารถกำหนดได้ว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติเมื่อใด
หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) เปิดเผยตัวเลข น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 24 พ.ย. 66 ปรับลดลง 0.817 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงกว่า 2 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีนปรับตัวลง ขณะที่อุปสงค์ของอินเดียยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากเกาหลีใต้ที่อยู่ในระดับสูง จากความต้องการในประเทศที่ปรับตัวลดลง สวนทางกับกำลังการผลิตที่ยังคงเพิ่มขึ้น