ก.พ. 67 ยอดส่งออกข้าวดิ่ง 15% ครั้งแรกในรอบ 3 เดือน วูบหายเกือบ 1.5 แสนตัน

ส่งออกข้าว

ผู้ส่งออกข้าว เผยส่งออกข้าวไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ปริมาณ 800,225 ตัน ลดลง 15.6% มูลค่า 18,531 ล้านบาท ลดลง 11.2% ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน นับจาก ธันวาคม 2566 ที่เคยส่งออกได้ 817,499 ตัน ชี้จากสาเหตุส่งมอบข้าวให้ผู้ซื้อลดลงทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รวมทั้งอิรัก ส่วนเดือนมีนาคม ส่งออกข้าวไทยยังคงอยู่ที่ 8 แสนตัน

วันที่ 2 เมษายน 2567 ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีปริมาณ 800,225 ตัน มูลค่า 18,531 ล้านบาท โดยปริมาณลดลง 15.6% และมูลค่าลดลง 11.2% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2567 ที่มีการส่งออกมีปริมาณ 947,742 ตัน มูลค่า 20,870 ล้านบาท เนื่องจากในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 การส่งออกข้าวขาว ข้าวนึ่ง และข้าวหอมมะลิมีปริมาณลดลงจากเดือนก่อน

เนื่องจากการส่งมอบข้าวขาว ให้กับผู้ซื้อที่สำคัญทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รวมทั้งอิรัก มีปริมาณลดลงพอสมควรจากเดือนก่อนที่ผู้ซื้อต่างเร่งนำเข้า เพื่อชดเชยอุปทานข้าวในประเทศที่ลดลง โดยการส่งออกกลุ่มข้าวขาวมีปริมาณ 503,733 ตัน ลดลง 25.0% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน

โดยยังคงส่งไปยังตลาดหลัก เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ แองโกลา มาเลเซีย อิรัก โมซัมบิก โตโก เป็นต้น ขณะที่การส่งออกข้าวนึ่ง มีปริมาณเพียง 43,574 ตัน ลดลง 33.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดหลัก เช่น แอฟริกาใต้ เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) มีปริมาณ 114,424 ตัน ลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยยังคงส่งไปยังตลาดหลัก เช่น สหรัฐ ฮ่องกง แคนาดา จีน สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร เป็นต้น

นอกจากนี้ สมาคมคาดว่าในเดือนมีนาคม 2567 ปริมาณส่งออกข้าวจะอยู่ที่ระดับประมาณ 800,000 ตัน ดังนั้นในช่วงไตรมาสแรก จึงคาดว่าปริมาณส่งออกจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านตัน เนื่องจากผู้ส่งออกยังคงมีสัญญาส่งมอบข้าวที่ยังต้องส่งมอบให้ผู้ซื้อพอสมควร ทั้งในกลุ่มของข้าวขาวซึ่งส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังประเทศในแถบอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รวมทั้งตลาดหลัก ในภูมิภาคแอฟริกา และตะวันออกกลาง เช่นเดียวข้าวนึ่งที่มีคำสั่งซื้อมากขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการที่อินเดียยังคงมีภาษีส่งออกข้าวนึ่ง ซึ่งขยายเวลาออกไปไม่มีกำหนด

ขณะที่ตลาดนำเข้าข้าวหอมมะลิที่สำคัญทั้งในอเมริกา และเอเชีย ยังคงนำเข้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อชดเชยอุปทานข้าวในประเทศที่ลดลง ประกอบกับผลผลิตข้าวนาปรังของไทยเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น รวมทั้งค่าเงินบาท ที่เคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าลง ช่วยทำให้ราคาข้าวของไทยอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้และจูงใจให้ผู้ซื้อหันมาหาข้าวไทยมากขึ้น

โดยราคาข้าวไทยข้าวขาว 5% ของไทย ณ วันที่ 27 มีนาคม 2567 อยู่ที่ 601 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม และปากีสถานอยู่ที่ 582-586 และ 605-609 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ ส่วนราคาข้าวนึ่งไทยอยู่ที่ 606 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ข้าวนึ่งอินเดียและปากีสถานอยู่ที่ 551-555 และ 618-622 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ

จากข้อมูลของกรมศุลกากรการส่งออกข้าวช่วง 2 เดือนแรกของปี (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2567) มีปริมาณ 1,747,966 ตัน มูลค่า 39,401 ล้านบาท (1,126.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 24.4% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 55.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 ที่ส่งออกปริมาณ 1,405,337 ตัน มูลค่า 25,408 ล้านบาท (754.0 ล้านเหรียญสหรัฐ)