ตรีนุช ขอบคุณประยุทธ์ ไฟเขียวใช้งบฯกลาง 97 ล้านบาท เดินหน้าอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ ประจำปี 2566
วันที่ 29 ธันวาคม 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ดำเนินโครงการอาชีวะสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนเพื่อผลิตกำลังคนของประเทศ (อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ)
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
โดยนำร่องในสถานศึกษาสังกัด สอศ.จำนวน 88 แห่ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (ระยะที่ 1) ก่อนแล้วให้กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินโครงการ ระยะที่ 1 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง สอศ.ได้เสนอคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 แต่ไม่ได้รับการพิจารณาในขั้นกรรมาธิการ จึงไม่มีงบฯดำเนินโครงการในปีงบฯ 2566 นั้น
เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง ศธ.จึงได้เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบฯกลางรายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 99,960,000 บาท ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าสำนักงบประมาณได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ซึ่งนายกฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นชอบให้ ศธ. โดย สอศ.ใช้จ่ายจากงบฯกลางรายการเงินสำรองจ่ายปีงบฯ 2566 ได้จำนวน 97,680,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอนของนักเรียนในโครงการอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ
โดยเบิกจ่ายในงบฯเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ส่วนค่าบริหารจัดการ จำนวน 2,280,000 บาท ให้ สอศ.ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปดำเนินการ
“ดิฉันขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนโครงการอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ ซึ่งการนำร่องระยะที่ 1 ในสถานศึกษาสังกัด สอศ.จำนวน 88 แห่ง เป็นวิทยาลัยเทคนิค 2 แห่ง วิทยาลัยการอาชีพ 39 แห่ง วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 47 แห่ง มีนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในโครงการ รวมประมาณ 4,000 คน
โดยนักศึกษาจะได้รับฟรีทั้งการเรียน ที่พัก อาหาร ครูดูแลหอพัก และกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต ซึ่งขณะนี้ ศธ.ได้จัดทำรายงานการติดตามและประเมินผลโครงการ เบื้องต้นแล้ว ซึ่งจะได้นำเสนอ ครม.รับทราบเพื่อพิจารณาขยายผลการดำเนินโครงการฯและขอรับการสนับสนุนงบประมาณในปีต่อ ๆ ไป
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ทำให้สามารถให้การช่วยเหลือเยาวชนในกลุ่มที่ตกหล่นจากระบบการศึกษา และกลุ่มที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ยากจน ตลอดจนอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมด้วยการได้รับโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ และมีความเท่าเทียมกันทางการศึกษา” รมว.ศธ.กล่าว