พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ใกล้จุดเรือหลวงสุโขทัยจม เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์

กองทัพเรือ เรือหลวงสุโขทัย

โฆษกกองทัพเรือเผย เรือหลวงบางระจัน พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจม ขณะที่อากาศยาน ตรวจพบคราบน้ำมันในทะเล เร่งตรวจสอบและประเมินผลกระทบ เพื่อเตรียมการขจัดคราบน้ำมัน

วันที่ 23 ธันวาคม 2565 พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ แถลงสรุปการปฏิบัติภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือ จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยล่ม ว่า กองทัพเรือจัดกำลังทางเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงตากสิน เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงนราธิวาส เรือ ต.114 เรือ ต.270 เข้าร่วมการค้นหา นอกจากนั้นยังได้ส่ง ยานล่าทำลายใต้น้ำและชุดถอดทำลายอมภัณฑ์ จากเรือหลวงบางระจัน เร่งสำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบ ในบริเวณที่เรือจม

เวลา 16.15 น.เรือหลวงบางระจันได้พบร่างมนุษย์ลอยน้ำบริเวณที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง จากนั้น เวลา 16.30 น. นำร่างขึ้นเรือและเดินทางกลับเข้าท่าเรือบางสะพานโดยมีกำหนดถึงท่าเรือสะพานในเวลา 19.00 น. โดยจะนำร่างดำเนินการส่ งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานจากการลาดตระเวนของเรือและอากาศยานว่า ตรวจพบคราบน้ำมันลอยขึ้น 3 จุด

จุดที่ 1 บริเวณเรือสุโขทัยอับปางขนาดความยาวคราบน้ำมันประมาณ 1 ไมล์

จุดที่ 2 แลต 10 องศา 56.8 ลิปดาเหนือ ลอง 99 องศา 55.36 ลิปดาตะวันออก ขนาดความยาวประมาณ 0.5 ไมล์

จุดที่ 3 บริเวณ แลต 10 องศา 53.17 ลิปดาเหนือ ลอง 99 องศา 55.97 ลิปดาตะวันออก ขนาดความยาวประมาณ 0.2 ไมล์

โดยในขณะนี้ กองทัพเรือ ได้จัดเรือและอากาศยาน ทำการลาดตระเวนและเฝ้าติดตามการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมการในการขจัดคราบน้ำมันต่อไป

ทั้งนี้ ปัจจุบันคลื่นลมในทะเลในพื้นที่อ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง เรือขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถออกทะเลได้ในการนี้ กองทัพเรือได้ประสานกับเครือข่ายศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ตลอดจนทางจังหวัด เพื่อให้ประสานงานกับเครือข่ายเรือประมงในทะเล ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ให้ช่วยกันค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่งพร้อมทั้งลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณชายหาด ซึ่งในวันนี้ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม

ในการนี้ กองทัพเรือ จะปรับพื้นที่การค้นหาและช่วยเหลือ โดยเน้นในพื้นที่ 1-8 และ บริเวณชายฝั่ง ห่างจากจุดที่เรือสุโขทัยอับปางประมาณ 30 ไมล์ทะเล

สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 105 นาย ช่วยได้แล้ว จำนวน 76 นาย รักษาหายกลับบ้าน จำนวน 57 นาย รักษาตัวอยู่ ในโรงพยาบาล จำนวน 19 นาย เสียชีวิต 6 นาย และยังคงสูญหายจำนวน 23 นาย (1 รายที่พบล่าสุด รอการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล)

พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เข้ารับฟังการรายงานสถานการณ์ การค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือที่สูญหายจากเหตุการณ์เรือสุโขทัยอับปาง พร้อมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม โดยมี พล.ร.อ. ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ และนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ รายงานสถานการณ์และตอบข้อซักถาม

ผู้บัญชาการทหารเรือกล่าวแก่กำลังพลศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือและกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างๆ ที่ร่วมประชุมผ่านระบบ VTC ว่า กองทัพเรือจะให้การสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจนี้อย่างเต็มที่ โดยกองทัพเรือซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และพระราชทานน้ำหลวงอาบศพแก่ผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 ขอให้กำลังพลมีกำลังกายและกำลังใจในการทำงาน ต้องดูแลญาติพี่น้องของกำลังพลที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ ให้เร่งรัดการช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย

แม้ว่าการค้นหาจะมีความยากลำบาก พื้นที่ปฏิบัติการกว้าง จำเป็นต้องใช้กำลังทั้งจากกองทัพเรือ รวมถึงเหล่าทัพ ทั้งกองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานต่างๆของ ศรชล. ตลอดจนเครือข่ายประชาชน และเรือประมงในพื้นที่ โดยขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจ เราจะทำวันนี้เพื่อพี่น้องของเรา ทำให้ญาติผู้สูญเสีย ขอให้หาให้พบ ทำให้ดีที่สุดโดยจะสนับสนุนกำลังของ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือในทุกพื้นที่ทั้งทางบกและทางทะเลอย่างเต็มที่ ขอให้นึกถึงพี่น้องของพวกเราทุกคน

ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายดำเนินการค้นหาในทุกจุดที่คาดว่าจะเจอผู้สูญหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเยียวยาจิตใจ ขอให้ได้ดำเนินการโดยเร็วเพราะครอบครัวผู้สูญเสียมีความทุกข์ใจขอให้ดูแลญาติพี่น้องของกำลังพลโดยคิดว่าเป็นญาติของตนเอง ขอให้ดำเนินการอย่างเต็มที่