“ภูเก็ต” เร่งประชุมสมาคมธุรกิจท่องเที่ยง ทำแผนจัดสรรวัคซีนโควิด

ภูเก็ตเร่งประชุมสมาคมธุรกิจท่องเที่ยงทำแผนจัดสรรวัคซีนโควิด หลังได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด – 19 งวดแรก จำนวน 68,000โดส  ฉีดคน 34,000คน แจงกลุ่มรับการฉีดอย่างละเอียด

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังเข้าทดสอบระบบการเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตว่า จังหวัดภูเก็ตได้รับแจ้งการจัดสรรวัคซีนโควิด – 19 จำนวน 68,000โดส อยู่ที่ประมาณ 34,000คน ในงวดแรก จะมาถึงต้นเดือนมีนาคม 2564 จำนวน 4,000โดส ฉีดได้ประมาณ 2,000คน ให้ฉีด 2ครั้งต่อ1คน โดยหลักฉีดเข็มแรกแล้ว เข็มที่สองจะฉีดภายในสองสัปดาห์ จากนั้นครั้งที่สอง 16,000โดส ครั้งที่สาม 48,000โดส

ในเรื่องนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้ให้ตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการ การฉีดวัคซีน โควิด-19 ในระยะแรก ได้วางแผนร่วมกันเบื้องต้นว่าจะจัดสรรให้ กลุ่มแรก คือ บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล ถัดไปเป็น กลุ่มที่อยู่ส่วนหน้าต้องไปต้อนรับนักท่องเที่ยว กลุ่มเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค ด่านศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องไปสัมผัสกับบุคคลภายนอก หัวหน้าส่วนราชการที่ต้องประชุมเป็นคณะ

จากนั้น เป็นกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังหรือผู้สูงอายุ และ กลุ่ม กลุ่มประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประชาชนที่จะต้องบริการนักท่องเที่ยว

ทางจังหวัดจะประชุมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตในการพิจารณาฉีดวัคซีน คือจะต้องเสนอว่ากลุ่มที่จะต้องไปสัมผัสบุคคลภายนอก กลุ่มที่ขับรถบริการรถโดยสารหรือผู้ที่อยู่หน้าฟร้อนท์ต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือกลุ่มที่จะต้องเกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาจากต่างประเทศ จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อนบุคคลทั่วไป จากนั้นในระยะสองและสามที่วัคซีนจะมา จะฉีดให้บุคคลทั่วไปกระจายไป มองตามลำดับความเสี่ยง

นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มจังหวัดท่องเที่ยว ที่ได้รับวัคซีน อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ สุราษฏร์ธานี ซึ่ง ภูเก็ต เป็นจังหวัดหนึ่งที่ต้องรับนักท่องเที่ยวก่อน จะได้วัคซีนมาเร็วกว่า โดยทุกจังหวัดให้มีการตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีน ว่าจะให้กลุ่มใดเท่าไหร่ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข

จากการสอบถามชาวภูเก็ตทั่วไปตื่นเต้นที่จะได้รับวัคซีน ทุกคนสนใจพยายามติดตามข้อมูลข่าวสารว่าฉีดแล้วมีผลกระทบอย่างไรบ้าง มีความกล้าที่จะฉีดหรือไม่ ในขั้นตอนการฉีดต้องสอบถามเจ้าตัวให้ยอมรับก่อนว่าพร้อมที่จะยอมรับวัคซีน ถ้าศึกษาผลข้างเคียงแล้วพบว่า ผลที่จะกระทบค่อนข้างน้อยมากซึ่งการฉีดวัคซีน เป็นการลดความเสี่ยง ขณะเดียวกันยังคงปฏิบัติตามหลักการป้องกันควบคุมโรคในการใช้หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เป็นภูมิคุ้มกันที่ดีกว่าวัคซีน แต่วัคซีนก็เป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันโรคโควิด-19