ไฮเออร์ เปิดตัวแบรนด์หรู ส่ง คาซาร์เต้ เจาะไฮเอนด์

คาซาร์เต้

ไฮเออร์ รุกเครื่องใช้ไฟฟ้ารอบใหม่ ประกาศลุยตลาดไฮเอนด์เต็มตัว หลังเห็นสัญญาณรถ-บ้านหรูครึ่งปีแรกโตดี ส่ง “คาซาร์เต้” แบรนด์ย่อยรวมสินค้าหรูเบิกทาง

พร้อมปักธงโชว์รูม Haier Flagship Store แห่งใหม่ห้างดังกลางกรุง ขนทัพสินค้า แอร์ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ตู้ถนอมผ้า ยันชุดเตาแก๊ส ใช้อินฟลูเอนเซอร์ดังเร่งสื่อสารออนไลน์-ออฟไลน์ แบบครบวงจร สร้างการรับรู้

นายธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สินค้าระดับกลาง-บนในหลายกลุ่ม อาทิ รถยนต์ ที่อยู่อาศัย นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ ต่างมีการเติบโต สะท้อนถึงดีมานด์และความพร้อมจับจ่ายสินค้าของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ในขณะที่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเอนด์ในไทยยังไม่มีคู่แข่งมากนัก

ดังนั้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะเริ่มรุกเข้าสู่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์อย่างเต็มตัว มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ระดับไฮเอนด์ ด้วย “คาซาร์เต้” (Casarte) แบรนด์ย่อยสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและของใช้ในบ้านระดับพรีเมี่ยม

มีจุดเด่นด้านนวัตกรรมที่ไม่มีในรุ่นปกติ และดีไซน์เรียบหรู รวมถึงบริการหลังการขายที่มากกว่าปกติ อาทิ บริการตรวจและออกแบบห้องที่ลูกค้าจะติดตั้งสินค้า จัดส่ง-ติดตั้งฟรีทั่วประเทศ บริการทำความสะอาดสินค้า รวมถึงสิทธิพิเศษอื่น ๆ เป็นต้น

นายธเนศร์ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัว คาซาร์เต้ ที่ประเทศจีน เมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา พบว่ายอดขายมีการเติบโตต่อเนื่อง เฉพาะปี 2562-2564 เติบโต 30-40% ต่อปี

ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านครัวเรือน และยังเป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านระดับหรูของจีนอีกด้วย สะท้อนจากส่วนแบ่งตลาดแอร์ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ที่อยู่ในระดับ 36.5%, 36.9% และ 78.8% ตามลำดับ

“จากความสำเร็จในประเทศจีนจึงตัดสินใจนำ คาซาร์เต้ เข้ามาทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ในไทย ซึ่งกลุ่มลูกค้าไม่ทับซ้อนกับไฮเออร์ ที่เป็นแบรนด์แม่ โดยคาซาร์เต้ (Casarte) นั้นมาจากภาษาอิตาลี 2 คำ คือ ลา คาซา (La Casa) หมายถึง บ้าน และอาร์เต้ (Arte) หมายถึง ศิลปะ เมื่อนำมารวมกันก็จะหมายถึง ศิลปะแห่งบ้าน สะท้อนถึงจุดเด่นที่เน้นความหรูหรา”

นายธเนศร์กล่าวด้วยว่า สำหรับสินค้าชุดแรกที่บริษัทนำเข้ามาทำตลาด ประกอบด้วย ทีวี แอร์ ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ตู้ถนอมผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น ชุดเตาแก๊สและฮูดดูดควัน ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นเด่น เช่น ตู้เย็นรุ่นเรือธงราคา 1.29 แสนบาท ที่สามารถแบ่งโซนทำความเย็นได้ 8 โซน อาทิ แช่นมแม่ เครื่องสำอาง ผัก ไข่ ฯลฯ

และช่องฟรีซปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -5 ถึง -20 องศา และเครื่องทำน้ำอุ่น ราคา 3.9 หมื่นบาทที่มาพร้อมแท็งก์น้ำไทเทเนียมและหน้าจอแสดงการทำงาน ไปจนถึงเตาแก๊ส ราคา 2.7 หมื่นบาท ที่มีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อไม่มีของวางบนเตา เป็นต้น

พร้อมกันนี้ เพื่อสร้างกระแสการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมาย และสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสสินค้าจริง จึงเปิด Haier Flagship Store ที่รวบรวมสินค้าแบบครบไลน์อัพไว้ในที่เดียว รวมถึงเป็น
สถานที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ แบบรายเดือนต่อเนื่อง โดยปักธงสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ และมีแผนขยายต่อเนื่องให้ครบทุกจังหวัดในอนาคต

ร่วมกับการสื่อสารผ่านอินฟลูเอนเซอร์จากสาขาอาชีพต่าง ๆ นำโดย “กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” นักแสดงสังกัดช่อง 3 เอชดี ซึ่งเคยมีผลงาน อาทิซีรีส์ TharnType The Series เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซะดี ๆ ที่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือ Friend of Casarte เพื่อสื่อสารผ่านสื่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์แบบครบวงจร เชื่อว่าด้วยไลน์อัพสินค้าและกลยุทธ์การสื่อสารเหล่านี้จะสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ได้แน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ไฮเออร์ เคยใช้กลยุทธ์ส่งแบรนด์ย่อยเพื่อเจาะเซ็กเมนต์เฉพาะเช่นเดียวกันนี้มาแล้ว โดยเมื่อปลายปี 2563 ยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจีน เปิดตัวแบรนด์ “แคนดี้” (Candy) มุ่งเจาะกลุ่มตลาด Gen Y และ Gen Z ด้วยดีไซน์ทันสมัย เรียบง่าย ในราคาที่จับต้องได้ อาทิ ทีวี เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้าฝาบนและ 2 ถัง ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก โดยเน้นขายเฉพาะในช่องทางออนไลน์ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของกลุ่มเป้าหมาย

ตามด้วยแบรนด์ “อยู่ดี” (Yudee) โมเดลการขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์ ทีวี แบบผ่อนชำระโดยไม่ใช้บัตรเครดิต แต่ใช้การเติมเงินผ่านแอปเป็นรายเดือน เพื่อเปิดใช้งานจนกว่าครบงวดตามสัญญา 6-24 เดือน เริ่มต้น 900 บาท

โดยมุ่งเจาะกลุ่มผู้ประกอบการที่พัก-สำนักงานขนาดเล็ก ธุรกิจเอสเอ็มอี รวมถึงผู้บริโภคที่ไม่ต้องการจ่ายเงินก้อนหรือผ่อนผ่านบัตรเครดิต โดยวางแผนเพิ่มเครื่องซักผ้า ตู้เย็น และตู้แช่ เข้ามาในอนาคต