คอลัมน์ : Market-think ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์
วันก่อน ผมนั่งคุยกับนักธุรกิจใหญ่หลายคน
น้องคนหนึ่งเตรียมเรื่อง ChatGPT ที่เชื่อกันว่าจะมาเปลี่ยนแปลงโลกมาเล่าให้ฟังในวงสนทนา
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
เตรียมเรื่องมาอย่างดี
มีสไลด์ประกอบด้วยว่าเจ้า ChatGPT ทำอะไรได้บ้าง
อธิบายจบก็เปิดเว็บ openai เพื่อโชว์ให้ดูว่าเจ้า ChatGPT เก่งแค่ไหน
แต่เปิดไม่ได้
ตอนแรกนึกว่าเน็ตมีปัญหา แต่เปลี่ยนการเชื่อมต่อหลายรูปแบบก็ยังเปิดเว็บนี้ไม่ได้
สุดท้ายจึงรู้ว่าช่วงเวลาที่เปิดคือช่วงค่ำของเมืองไทย ตรงกับตอนเช้าของฝั่งตะวันตก
ผู้คนกำลังเห่อ ChatGPT ครับ
แย่งกันเข้าจนเปิดเว็บไม่ได้
ในวงสนทนาส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ มีทั้งบริษัทด้านเทคโนโลยี พลังงานสะอาด โรงแรม ฯลฯ
แต่ละคนมองเจ้า ChatGPT ในมุมของตัวเอง
คิดแบบ “เจ้าของ” ว่าจะใช้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ได้บ้าง
ฟังแล้วหนาวแทนคนทำงานเลยครับ
เพราะความฉลาดของเจ้าตัวนี้ มันล้ำมากจริง ๆ
แม้แต่โปรแกรมเมอร์ที่เป็น “มนุษย์ทองคำ” ในวันนี้ก็เหนื่อย
เพราะเขาได้ทดลองสั่งให้ ChatGPT เขียนโปรแกรมแบบไม่ซับซ้อนนักเหมือนที่สั่งให้ลูกน้องทำ
ตามปกติลูกน้องใช้เวลาเป็นวัน
แต่ ChatGPT ใช้เวลาไม่กี่นาที
มีคนบอกว่าการที่บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกปลดพนักงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมเมอร์ นอกจากเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว
อาจเป็นเพราะเจ้า ChatGPT ที่ทำให้เขาพึ่งพาคนน้อยลง
อย่างล่าสุดที่ “ไมโครซอฟท์” ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ChatGPT นำความอัจฉริยะของระบบนี้มาเป็นฟีเจอร์ใหม่
เปิดบริการ Teams Premium
เปลี่ยนแปลงรูปแบบการประชุมแบบเดิมให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติ
บันทึกการประชุม แปลภาษาสด 40 ภาษา
ถือเป็นการทลายกำแพงด้านภาษาระหว่างพนักงานต่างเชื้อชาติ
สรุปการประชุม ไฮไลต์ประเด็นที่สำคัญได้ด้วย
ฟังแล้วน่าตกใจมาก
อย่างเรื่องการแปลภาษาสดพร้อมกัน 40 ภาษา
มันคือ “วุ้นแปลภาษา” ของ “โดราเอมอน” นั่นเอง
อ่านข่าวนี้แล้ว ผมสงสารคนเรียนอักษรศาสตร์ หรือศิลปศาสตร์เลยครับ
ถ้าเจ้าวุ้นแปลภาษารุ่นใหม่นี้สามารถแปลภาษาได้แบบเรียลไทม์
ความสามารถด้านภาษาต่างประเทศจะถูกลดทอนความสำคัญลงทันที
และผมเชื่อว่านับจากนี้เป็นต้นไป อาชีพต่าง ๆ จะได้รับผลกระทบจากเจ้า ChatGPT มากขึ้นเรื่อย ๆ
และที่น่ากลัวก็คือเรื่อง “ความเร็ว”
พัฒนาการความฉลาดของ AI แบบนี้จะเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ
เหตุผลสำคัญมาจาก “การแข่งขัน” ครับ
เพราะเจ้า ChatGPT ทำให้ “กูเกิล” สะเทือนหนัก
ใครจะไปนึกว่า “กูเกิล” ซึ่งเป็นโปรแกรมการค้นหาข้อมูลที่ครองความยิ่งใหญ่มายาวนาน
จนไม่มีใครคิดว่าจะมีโปรแกรมไหนมาล้ม “กูเกิล” ได้
ไม่แปลกที่ราคาหุ้น “กูเกิล” จะตก
และหุ้น “ไมโครซอฟท์” ที่ถือหุ้นใหญ่ ChatGPT ราคาพุ่งสูงขึ้น
“กูเกิล” ประกาศเลยว่าจะเปิดตัว bard ขึ้นมาแข่งกับ ChatGPT
แสดงว่าเขาคิดไว้แล้ว แต่ยังไม่เปิดตัว
ล่าสุด “อาลีบาบา” ก็เตรียมเปิดตัว AI ตัวใหม่เหมือนกัน
ผมเชื่อว่าคงมีอีกหลายเจ้าที่ซุ่มพัฒนา AI แบบเดียวกันจะเริ่มปล่อยของ
ไม่มีใครปล่อยให้ ChatGPT โดดเดี่ยว
ทุกคนพร้อมลงสนาม
ครับ การแข่งขันทำให้ตลาดโต
และทำให้เจ้า AI ฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ
