Oppenheimer โค่น Bohemian Rhapsody ขึ้นเป็นหนังชีวประวัติที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล

Bohemian Rhapsody - Oppenheimer

Oppenheimer ภาพยนตร์ชีวประวัติเจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ (J. Robert Oppenheimer) ผู้คิดค้นระเบิดปรมาณู แซงหน้า Bohemian Rhapsody ภาพยนตร์ชีวประวัติวงควีน (Queen) ขึ้นเป็น “ภาพยนตร์ชีวประวัติที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล” แล้ว 

สำนักข่าวเดอะ การ์เดียน (The Guardian) รายงานเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2023 ว่า Oppenheimer (ออพเพนไฮเมอร์) ภาพยนตร์ชีวประวัติของ เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ (J. Robert Oppenheimer) นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน ผู้คิดค้นระเบิดปรมาณู ทำรายได้จากการฉายทั่วโลกแซงหน้า Bohemian Rhapsody (โบฮีเมียน แรปโซดี) ภาพยนตร์ชีวประวัติวงควีน (Queen) ขึ้นเป็น “ภาพยนตร์ชีวประวัติที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล” แล้ว 

เดอะ การ์เดียน รายงานอ้างอิงข้อมูลที่ระบุบนเว็บไซต์ Box Office Mojo ว่า Bohemian Rhapsody ภาพยนตร์ชีวประวัติเฟรดดี เมอร์คิวรี (Freddie Mercury) กับวงควีนกวาดรายได้ไปกว่า 910 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018

ส่วน Oppenheimer ผลงานของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ที่เข้าฉายเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำรายได้ไปแล้ว 912 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเปิดตัวพร้อมกันกับ Barbie (บาร์บี้) ซึ่งเป็นภาพยนตร์กระแสดีที่สุดและที่ทำรายได้สูงสุดในปีนี้ (ปัจจุบันอยู่ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลก) โดยมีแฮชแท็ก #Barbenheimer เป็นกระแสที่กระตุ้นให้คนดูอยากดูภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง 

ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีภาพยนตร์ Bohemian Rhapsody ภาพยนตร์ชีวประวัติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ American Sniper (อเมริกัน สไนเปอร์) เรื่องราวเกี่ยวกับคริส ไคล์ (Chris Kyle) นักแม่นปืนของกองทัพสหรัฐที่ทำรายได้ 547 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการเข้าฉายเมื่อปี 2014 

นอกจากนั้น ภาพยนตร์ชีวประวัติเรื่องอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จสูงได้แก่ The King’s Speech ภาพยนตร์ชีวประวัติของพระเจ้าจอร์จที่ 6 กษัติรย์แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทำรายได้ 484 ล้านดอลลาร์ จากการเข้าฉายในปี 2010, The Greatest Showman เรื่องราวชีวิตของฟีเนียส เทย์เลอร์ บาร์นัม (Phineas Taylor Barnum) โชว์แมนชื่อดังระดับโลก ที่ทำรายได้ 435 ล้านดอลลาร์ จากการเข้าฉายในปี 2010 และ The Wolf of Wall Street เรื่องราวของจอร์แดน เบลฟอร์ต (Jordan Belfort) นักปั่นหุ้นระดับโลก ทำรายได้ 406 ล้านดอลลาร์ จากการเข้าฉายในปี 2013