เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
หน้าแรก หัวข้อข่าว โตโยต้า

ข่าว: โตโยต้า

ติดตามข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ โตโยต้า (Toyota) รวมถึงโปรโมชั่นล่าสุด สำหรับรถทุกรุ่นที่เปิดตัวใหม่ล่าสุดปีนี้

โตโยต้า ถนนสีขาว รณรงค์ตอกย้ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการขับขี่

โตโยต้า ถนนสีขาว รณรงค์ตอกย้ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการขับขี่

จัดนิทรรศการ       “ Save Speeding Loss  เซฟชีวิตหยุดขับเร็ว” นายกลินท์  สารสิน  ประธานคณะกรรมการ  บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด...
โตโยต้า สร้างความมั่นใจและตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการบริการลูกค้า

โตโยต้า สร้างความมั่นใจและตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการบริการลูกค้า

โตโยต้า สร้างความมั่นใจและตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการบริการลูกค้าจัดกิจกรรม “การแข่งขันทักษะการบริการลูกค้า” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 46  46th ...
โตโยต้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด PPV 

โตโยต้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด PPV 

เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ FORTUNER LEADER S “TRUST OF THE LEADER…ความไว้วางใจแห่งผู้นำ” บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตอกย้ำความเป็น...
toyota

“โตโยต้า” ปลื้มรถไฮบริดพุ่งไม่หยุด ตอบทุกโจทย์ใช้งานยอดส่งออกโต 400%

“โตโยต้า” ปลื้มตลาด HEV โตไม่หยุด 9 เดือนขายแล้วเกือบแสนคัน ขยับสัดส่วนในตลาดรถนั่งทะลุ 20% ดันส่งออกพุ่งกว่าร้อยละ 400 เชื่อคนใช้รถอยากประห...
ประกาศผลรางวัลรอบชิงชนะเลิศ 

ประกาศผลรางวัลรอบชิงชนะเลิศ 

การประกวดแต่งรถกระบะไฮลักซ์ รีโว่-ดี แซดอิดิชั่น ภายใต้กิจกรรม “อาชีวะ ท้าแต่งแซด กับ ไฮลักซ์ รีโว่-ดี แซดอิดิชั่น ปี 2”  นายณัทธร ศร...
โตโยต้าแนะนำ Yaris ATIV Special Edition NIGHTSHADE 

โตโยต้าแนะนำ Yaris ATIV Special Edition NIGHTSHADE 

Be SHADESETTER...สไตล์ที่เรากำหนด  กับเฉดใหม่สไตล์ Premium สุดสปอร์ต จนใครๆก็ต้องตาม บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำซีดานยอด...
ททท. จับมือ โตโยต้า จัดแคมเปญ “เที่ยวทั่วไทย อุ่นใจไปกับโตโยต้า”

ททท. จับมือ โตโยต้า จัดแคมเปญ “เที่ยวทั่วไทย อุ่นใจไปกับโตโยต้า”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย  จำกัดเปิดตัวแคมเปญใหม่เชิงสร้างสรรค์ภายใต้ กิจกรรม “เที่ยวทั่วไท...
โตโยต้า คัมรี

“โตโยต้า” ท้อขายทั้งปีแค่ 2 แสน ส่ง “คัมรี” ใหม่กวาดแชร์เพิ่มหมื่นคันต่อปี

ตลาดรถยนต์นั่งขนาดใหญ่คึกคัก หลังโตโยต้า ฮึดส่ง คัมรีใหม่ ทวงคืนยอดขาย หวังดันตัวเลขทะลุ 1,000 คันต่อเดือน ชี้ปล่อย EV จีนกวาดยอดชิงเค้ก 1.5...
โตโยต้า จับมือ สมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทย

โตโยต้า จับมือ สมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทย

โตโยต้า จับมือ สมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทย มอบรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และเครื่องยนต์ รวม 13 รายการ เพื่อประกอบการเรียนการสอนแก่สถาบ...
ร้านอาหาร-เครื่องดื่มจีน เลือก “อาเซียน” เป็นบ้านหลังสอง ////////////////// ตัดช่วง **** จ้า ในประเทศไทยได้เห็นการเข้ามาเปิดร้านอาหารจีนกันอย่างคึกคักในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา และถ้ามองออกไปกว้างกว่านี้ จะเห็นว่าแนวโน้มในไทยก็เป็นแนวโน้มเดียวกันกับทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ร้านอาหารจีนพาเหรดเข้ามาเปิดสาขากันอย่างสนุกสนานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้น อาเซียนยังครองสถานะเป็นจุดหมายปลายทางแรกที่ร้านอาหารและเครื่องดื่มจีนเลือกเมื่อต้องการขยายธุรกิจออกนอกประเทศด้วย เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข้อมูลจากการรายงานของ “ไฉซิน” (Caixin) ซึ่งเป็นสื่อและผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเงินในจีนว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มจากจีนได้ขยายการลงทุนมายังอาเซียนอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากความอิ่มตัวของตลาดในประเทศ บวกกับสภาพการแข่งขันอันดุเดือดของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มขนาดเล็กในประเทศ ตามข้อมูลที่ไฉซินรายงานโดยอ้างอิงบริษัทหลักทรัพย์ ฮวาฟู่ ซีเคียวริตีส์ (Huafu Securities) ในปี 2023 มีการจดทะเบียนตั้งบริษัทอาหารและเครื่องดื่มในจีนมากถึง 3.19 ล้านบริษัท เพิ่มขึ้น 24.2% จากปีก่อนหน้า แม้ว่าการบริโภคภายในประเทศจีนไม่ได้คึกคักเท่าไรนัก อย่างที่เราได้ทราบข่าวกันในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ข้อมูลจาก “เพย์อินวัน” (PayInOne) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการจัดหาคนทำงานและระบบจ่ายเงินเดือนระบุว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2021-2023) การจ้างงานและการจ่ายเงินเดือนในต่างประเทศของบริษัทจีนเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% ต่อปี และในปีนี้บริษัทอาหารและเครื่องดื่มจีนที่ดำเนินธุรกิจในต่างประเทศกำลังเปิดรับสมัครพนักงานอีกจำนวนมาก ไฉซินรายงานอ้างอิงข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์ ซูโจว ซีเคียวริตีส์ (Soochow Securities) ว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2023 จำนวนสาขาร้านอาหารและเครื่องดื่มจีนในอาเซียนมีดังนี้ ไหตี้เหลา (Haidilao) 115 สาขา, คูคู (Coucou) 14 สาขา, เซียปู่ เซียปู่ (Xiabu Xiabu) 5 สาขา, ไท่เออร์ (Tai Er) 18 สาขา, ลัคกิน คอฟฟี่ (Luckin Coffee) 30 สาขา, เฮย์ที (Hey Tea) มากกว่า 10 สาขา, นายูกิ (Nayuki) 1 สาขา, ชาจี (Chagee) มากกว่า 100 สาขา และมี่เสวี่ย (Mixue) มากกว่า 4,000 สาขา นอกจากชื่อที่ว่ามาแล้วยังมี จางเลี่ยงหม่าล่าทั่ง (Zhangliang Malatang) ชาบูหม่าล่าหม้อไฟอีกแบรนด์ที่ไฉซินระบุว่าปัจจุบันมีร้านในต่างประเทศทั้งหมด 63 สาขาใน 15 ประเทศ และข้าวมันไก่หยาง (Yang’s Braised Chicken Rice) ที่มี 100 สาขา ใน 10 ประเทศ โดยไม่ได้ระบุว่าอยู่ในอาเซียนจำนวนกี่ร้าน แต่ก็คาดว่าน่าจะอยู่ในอาเซียนเป็นส่วนใหญ่ดังเช่นแบรนด์อื่น ๆ หลี่ เว่ยเซิน (Li Weisen) รองผู้จัดการทั่วไปของแบรนด์ข้าวมันไก่หยางให้ข้อมูลว่า การแข่งขันระหว่างธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มขนาดเล็กในจีนนั้นรุนแรงมาก ดังนั้น บริษัทต่าง ๆ ในจีนจึงมองว่าการอัปเกรดแบรนด์ในตลาดในประเทศ และการขยายธุรกิจในต่างประเทศ เป็นสองทิศทางหลักที่ต้องทำคู่กันไป หลิน ตัน (Lin Tan) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเพย์อินวันให้ข้อมูลว่า บริษัทอาหารและเครื่องดื่มของจีนใช้หลายกลยุทธ์ในการขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งการเลือกตลาดเป้าหมาย การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การเปิดร้านเอง และการขายแฟรนไชส์ แต่โดยภาพรวมดูเหมือนว่าการขายแฟรนไชส์จะมีสัดส่วนมากกว่า และส่วนใหญ่เลือกขยายกิจการในอาเซียนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะขยายไปยังยุโรป อเมริกาเหนือ หรือแม้แต่ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่อยู่ใกล้บ้าน เนื่องจากคำนึงถึงเรื่องต้นทุนบุคลากรที่น้อยกว่าและการจัดการที่ง่ายกว่า ***** น่าสนใจว่า 7 ชื่อแรกจาก 9 ชื่อในข้อมูลชุดแรกนั้นเลือกเริ่มธุรกิจในอาเซียนที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมี “ไหตี้เหลา” (Haidilao) ร้านชาบูหม้อไฟยักษ์ใหญ่จากมณฑลเสฉวน เป็นผู้บุกเบิกเข้าสู่อาเซียนที่สิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2012 ตามรายงานบอกว่าหลาย ๆ แบรนด์มองสิงคโปร์เป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดตะวันตก ซึ่งพวกเขาสามารถทดสอบทั้งอุปสงค์ของผู้บริโภค และความสามารถการดำเนินงานนอกจีนแผ่นดินใหญ่ของบริษัทเองด้วย ยกตัวอย่างเช่น ลัคกิน คอฟฟี่ ที่เปิดร้านเองในสิงคโปร์มากถึง 32 สาขา หลังจากที่เข้าสู่สิงคโปร์เมื่อปี 2023 นี่เอง ซึ่งโฆษกของลัคกินบอกว่า สิงคโปร์มีตลาดกาแฟที่เติบโตเต็มที่และมีเศรษฐกิจที่พัฒนาก้าวหน้า ซึ่งลัคกินมองว่านี่เป็นมาตรฐานสำหรับการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ **** ในรายงานของไฉซินบอกอีกว่า บริษัทอาหารและเครื่องดื่มจีนในต่างประเทศกำลังสร้างห่วงโซ่อุปทานในท้องถิ่นนั้น ๆ และนำเข้าส่วนผสมหลักจากประเทศจีน เพื่อรักษาคุณภาพและความถูกต้อง โดยนำเข้าสินค้าที่ขนส่งได้ง่าย เช่น ซุปและเครื่องปรุงรสจากประเทศจีน ขณะเดียวกันก็จัดหาวัตถุดิบที่เน่าเสียง่ายจากซัพพลายเออร์ในท้องถิ่น ซึ่งวิธีการนี้ช่วยรักษารสชาติหลักของอาหาร ในขณะเดียวกันก็รับประกันความสดของวัตถุดิบ และลดความท้าทายด้านโลจิสติกส์ นั่นหมายความว่าในระยะแรก ๆ ธุรกิจวัตถุดิบในท้องถิ่นยังได้ประโยชน์จากการเข้ามาของร้านอาหารและเครื่องดื่มจากจีนอยู่บ้าง แต่ในอนาคต ประโยชน์ที่จะเกิดกับธุรกิจท้องถิ่นนั้นน่าจะน้อยลง ตามที่มีการวิเคราะห์โดยนักลงทุนที่ศึกษาตลาดชานมไข่มุกว่า “การพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในต่างประเทศยังมีปัญหามากมาย แต่ในอนาคตบริษัทวัตถุดิบต่าง ๆ จากจีนจะติดตามแแบรนด์ไปยังต่างประเทศด้วยแน่นอน ในปัจจุบัน บริษัทวัตถุดิบขนาดใหญ่บางแห่งก็เริ่มขยายไปยังต่างประเทศแล้ว” ซึ่งหมายความว่า การใช้บริการซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นจะน้อยลง สำหรับคำถามที่ว่ารัฐบาลของประเทศต่าง ๆ จะสามารถปกป้องประโยชน์ของธุรกิจในท้องถิ่นอย่างไรได้บ้างนั้น ก็ยังมีวิธีที่สามารถทำได้อย่างตรงไปตรงมา คือ “กำหนดมาตรฐานให้สูง” ซึ่งร้านอาหารจากจีนที่เปิดร้านในต่างประเทศเองก็ยอมรับว่า ห่วงโซ่อุปทานของตนเผชิญความท้าทายในการปฏิบัติกฎของประเทศต่าง ๆ ที่เข้าไป ซึ่งเมื่อการสร้างห่วงโซ่อุปทานของตนเองไม่ผ่านมาตรฐาน ก็ย่อมมีความจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นที่ผ่านมาตรฐาน

มูลนิธิโตโยต้ามอบทุนสนับสนุน ขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความยั่งยืน

มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย สานต่อเจตนารมณ์ ขับเคลื่อนสังคมไทยสู่สังคมแห่งความยั่งยืน ผ่านกิจกรรมมอบทุนสนับสนุน ประจำปี 2567 นายประมนต์ ส...

ข่าวเด่นวันนี้