กต. ยืนยัน ความพร้อมแผนอพยพคนไทยจากยูเครน รับแจ้งแล้ว 236 คน

โฆษก กต. ยืนยันความพร้อมแผนอพยพคนไทยจากยูเครน ตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน (เมืองลวิฟ)” เพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราว เผยมีคนไทยจำนวน 236 คน แจ้งความประสงค์ขออพยพ

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและอธิบดีกรมสารนิเทศเปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ว่า

ไทยได้ติดตามพัฒนาการในยูเครน โดยเฉพาะการทวีความตึงเครียดในยุโรปด้วยความห่วงกังวลอย่างยิ่ง ไทยสนับสนุนความพยายามที่ยังคงดำเนินอยู่ เพื่อแสวงหาการแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติผ่านการหารือ รวมทั้งยืนยันความพร้อมของแผนอพยพคนไทย ดังนี้

1.ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ซึ่งมีเขตอาณาดูแลยูเครน ได้ตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน (เมืองลวิฟ)” (โรงแรม Цісар หรือ Tsisar ที่อยู่ Horodotska St, 65, Lviv, Lviv Oblast, Ukraine, 79000) โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ไปประจำ เพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราวของคนไทยในยูเครนที่จะเดินทางออกมาจากเมืองต่าง ๆ ที่มีเสี่ยงต่อความปลอดภัย และเป็นศูนย์ประสานงานกับฝ่ายยูเครนในการช่วยเหลือคนไทย

2. เมืองลวิฟ (Lviv) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของยูเครน และห่างจากกรุงวอร์ซอประมาณ 400กม. (ใช้เวลาเดินทางโดยรถ 6-7 ชม.) จะเป็นฐานในการรวบรวมคนไทยเพื่อเดินทางกลับไทยโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำหรือเครื่องบินที่รัฐบาลไทยจัดหา โดยอาจเป็นการเดินทางออกจากเมืองลวิฟ หรือออกจากโปแลนด์ ขึ้นกับสถานการณ์ความปลอดภัยในยูเครน

ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดผ่านศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center – RRC) ซึ่งมีรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน

3. ขณะนี้ มีคนไทยจำนวน 236 คน (จากจำนวน 253 คนในยูเครน) แจ้งความประสงค์ไปรวมตัวที่เมืองลวิฟ อุปสรรคสำคัญในการช่วยเหลือคือการจัดหารถเช่าเพื่อรับคนไทยจากพื้นที่ต่าง ๆ มายังเมืองลวิฟ เนื่องจากน่านฟ้าปิดและเริ่มมีการปิดถนนข้ามเมืองบางสาย และระงับการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ (เครื่องบิน รถไฟ)

อีกทั้งบริษัทรถเช่าทั้งในยูเครนและโปแลนด์ปิดให้บริการ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อจัดหารถดังกล่าว และได้ติดต่อนายจ้างในเมืองต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และพัฒนาการความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่

4. สถานเอกอัครราชทูตฯ จะจัดรถไปรับคนไทยในเมืองหลักต่าง ๆ โดยทันทีเมื่อสถานการณ์อำนวย และในระหว่างนี้ ได้ขอความร่วมมือนายจ้างดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของลูกจ้างคนไทยอย่างเต็มที่ เช่น เตรียมอาหาร สิ่งของจำเป็น เตรียมเอกสารเดินทาง

5.ขอย้ำช่องทางการประสานงานเพื่อแจ้งข่าวสารและดูแลความปลอดภัยของคนไทยในยูเครน ดังนี้

– Facebook สถานเอกอัครราชทูตฯ “Royal Thai Embassy, Warsaw, Poland” และ Facebook กลุ่ม “คนไทยในประเทศยูเครน”

– กลุ่ม LINE ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับชุมชนไทยในยูเครน

– กลุ่ม Telegram ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับเจ้าของร้านสปาไทยชาวยูเครน เพื่อการประสานงานกันอย่างทันท่วงทีกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย

– หมายเลข Hotline + 48 696 642 348 สามารถติดต่อได้ 24 ชม. และอีเมล์ [email protected]