ต่างประเทศ

ลาวเปลี่ยนตัว ผู้ว่าแบงก์ชาติ – รัฐมนตรีการค้า รับโจทย์ยากเศรษฐกิจ-เงินเฟ้อ

หลังสถานการณ์ทางการเงินน่าวิตก เงินเฟ้อทะยานสูง สปป.ลาวเปลี่ยนตัวผู้ว่าแบงก์ชาติแล้ว ขณะเดียวกันเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีอุตสาหกรรมและการค้าด้วย

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. สำนักข่าวสารประเทศลาว รายงานว่า ในการประชุมสภาแห่งชาติ สปป.ลาว มีการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายสมาชิกระดับสูงของรัฐบาลลาวหลายตำแหน่ง ตามคำเสนอของนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีลาว

ตำแหน่งสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงได้แก่ นายคำแพง ไซสมแพง รมว.อุตสาหกรรมและการค้า เป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ นายสอนไซ สิดพะไซ ผู้ว่าการธนาคารแห่งสปป.ลาว เป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ นายมะไลทอง กมมะสิด ประธานองค์การตรวจสอบแห่งรัฐ เป็นรมว.อุตสาหกรรมและการค้า และนายบุนเหลือ สินไซวอละวง รมช.คลัง เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งสปป.ลาว

การปรับเปลี่ยนผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ของสปป.ลาว มีขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจรอบด้าน ไม่ว่า น้ำมัน เงินเฟ้อ เงินกีบอ่อนค่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. รัฐบาลลาวมีมติเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำต่อเดือนสำหรับพนักงานภาคเอกชน จากเดิม 2,600 บาท เป็น 3,100 บาท ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป เพื่อรับมือสถานการณ์ค่าครองชีพที่พุ่งสูง

รัฐบาลระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยเหลือประชาชนหลายล้านคนที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดขณะเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าบริการปรับตัวสูงขึ้น

สปป.ลาว
Photo by Kaikeo Saiyasane/Xinhua

นอกจากนี้ ธนาคารกลางของสปป.ลาว (Bank of the Lao – BOL) ยังแถลงจำกัดการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ห้ามการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกับองค์การหรือบริษัท อนุญาตให้เฉพาะการแลกเปลี่ยนโดยตัวบุคคล หรือนักท่องเที่ยว ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 15 ล้านกีบ หรือราว 35,000 บาทต่อวัน

ช่วงเวลาเดียวกันนี้ สปป.ลาวเร่งเดินหน้านำเงินเข้าประเทศ โดยทำสัญญาขายไฟฟ้าขนาด 100 เมกะวัตต์ ให้กับสิงคโปร์ ภายใต้โครงการบูรณาการพลังงานลาว-ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ (LTMS-PIP)

เวียงจันทน์ไทมส์ รายงานว่า โครงการนี้เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมืออันดีระหว่างการไฟฟ้าลาว การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้ามาเลเซีย (TNB) ก่อนขยายความร่วมมือไปยังสิงคโปร์ผ่านโครงการลาว-ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ (LTMS)

จันทบูน สุกาลุน กรรมการผู้จัดการของการไฟฟ้าลาว (EDL) กล่าวว่า โครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าสำคัญในการบรรลุเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นของโครงการอาเซียน พาวเวอร์ กริด ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งหลังจากดำเนินงานร่วมกันมาหลายปี ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ตั้งเป้าหมายเป็น 4 ประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนด้านการซื้อและขายพลังงานนอกพรมแดน