
“ชัชชาติ” หาช่องรีดภาษีน้ำมัน-บุหรี่-โรงแรม หลังตรวจสอบพบกฎหมายเปิดช่องให้ท้องถิ่นจัดเก็บเองได้ ตั้งเป้าสร้างรายได้ภาษี-ค่าธรรมเนียมให้ กทม. เพิ่มปีละ 1.4 พันล้านบาท เผยเก็บเพิ่มบุหรี่ซองละ 2 บาท น้ำมันลิตรละ 5 สตางค์ และโรงแรม 2% จากค่าเช่า
วันที่ 5 ธันวาคม 2565 แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานครในวันที่ 6 ธันวาคม 2565 นี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้มอบนโยบายให้สำนักการคลังหาแนวทางเพิ่มรายได้ให้ กทม. โดยทางผู้อำนวยการสำนักการคลังเตรียมข้อเสนอแนวทางการเพิ่มรายได้ จากปัจจุบันที่มีรายได้จัดเก็บทั้งสิ้น 7.9 หมื่นล้านในปีงบประมาณ 2565
เล็งรีดภาษีน้ำมัน บุหรี่ โรงแรม
โมเดลของการเพิ่มรายได้ให้ กทม.คือ การขอดำเนินการจัดเก็บรายได้ส่วนที่ปัจจุบันยังไม่มีการจัดเก็บ ได้แก่ ภาษีน้ำมัน ภาษียาสูบ และค่าธรรมเนียมโรงแรม ซึ่งกรุงเทพมหานครมีอำนาจตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดอื่นได้มีการปรับแก้พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทำให้สามารถจัดเก็บภาษีในส่วนนี้ได้พร้อมกันทั้งประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. 2546
แต่สำหรับ กทม. ปัจจุบันยังไม่มีการจัดเก็บ เนื่องจากไม่มีการแก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบบริหารกรุงเทพมหานครพร้อมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด
เป้าเพิ่มรายได้ 1.4 พันล้านบาท
แหล่งข่าวจากผู้บริหาร กทม. รายหนึ่งกล่าวว่า การจัดเก็บอัตราภาษีใหม่ของกรุงเทพมหานคร จะต้องมีการเสนอให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร จะอยู่ในกรอบต่าง ๆ ดังนี้
1.ค่าธรรมเนียมโรงแรม จัดเก็บไม่เกินร้อยละ 2 ของค่าเช่าห้องพัก จากเดิมไม่เคยจัดเก็บโดยประมาณการรายได้ที่ 1 พันล้านบาท
2.ภาษียาสูบ จัดเก็บไม่เกิน 10 สตางค์ต่อมวน จากเดิมไม่เคยจัดเก็บ โดยประมาณการรายได้ 200 ล้านบาท
3.ภาษีน้ำมัน จัดเก็บอัตราไม่เกิน 10 สตางค์ต่อลิตร จากเดิมกำหนดจัดเก็บที่ 5 สตางค์ต่อลิตร จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 200 ล้านบาท
หากมีการการจัดเก็บทั้ง 3 รายการ ซึ่งจะทำให้ กทม.มีรายได้เพิ่มกว่าปีละ 1.4 พันล้านบาท
ทั้งนี้ กทม.จะต้องมีการผลักดันให้การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยการแก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบบริหารกรุงเทพมหานคร จะเป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ในการเสนอร่างกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี และส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณากฎหมายฉบับนี้
เตรียม Open Data การจัดเก็บรายได้ กทม.
นอกจากนี้ ตามนโยบายของคณะผู้บริหารที่ต้องการให้หน่วยงานที่จัดเก็บรายได้ของกรุงเทพมหานคร เป็นมาตรฐานเดียวกัน มีความโปร่งใส และรายได้ของกรุงเทพมหานครจะต้องไม่รั่วไหล ปัจจุบันมีการสำรวจแนวการดำเนินการในการจัดเก็บรายได้ของกรุงเทพมหานคร ว่าเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ มีความโปร่งใสเพียงใด โดยอาจจะพิจารณาการปฏิบัติตามนโยบาย Open Data ในลำดับต่อไป