เปิดผลการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบ “ป้าย 33 ล้าน” ตั้งข้อสังเกตปมจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง แนะเปิดประมูลโดยทั่วไป
วันที่ 24 มกราคม 2566 นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง และประธานคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดดังกล่าวว่า
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ภายหลังการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว มีประเด็นที่จะต้องตรวจสอบในรายละเอียด 2 ประเด็น คือประเด็นความเหมาะสมของขอบเขตงานและราคากลาง
แนะคงป้าย “สถานีกลาง” ช่วยประหยัดงบฯ
โดยมีผลการตรวจสอบในประเด็นนี้ คือ ไม่พบการดำเนินการที่เชื่อได้ว่า ร.ฟ.ท. ดำเนินการ นอกเหนือจากขอบเขตงานแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นไปตามรายละเอียดของงานติดตั้งป้ายเดิม ที่ ร.ฟ.ท.ได้รายงานว่ามีการตรวจสอบและรับรองทางวิศวกรรม รวมทั้งมีการติดตั้งไปแล้ว
ซึ่งปรากฏว่า มีความปลอดภัยและแข็งแรงตามมาตรฐาน ดังนั้น การกำหนดขอบเขตการดำเนินการ และการกำหนดราคากลางของ ร.ฟ.ท. ของการดำเนินโครงการครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาชีพที่สามารถตรวจสอบได้
แต่คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาให้ข้อเสนอแนะแก่ทาง ร.ฟ.ท. ดังต่อไปนี้
- ร.ฟ.ท. อาจทบทวนรายละเอียดทั้งในส่วนของวัสดุ เทคนิค ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ทำให้การออกแบบ เลือกใช้วัสดุ และวิธีการจัดทำ และติดตั้งป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อในครั้งนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่า หรือมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการจัดทำ เทียบกับติดตั้งป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อในครั้งก่อน ทบทวนค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน และจำนวนและเวลาที่ใช้งานของกระเช้าอีกครั้ง
- ร.ฟ.ท. อาจพิจารณาความเป็นไปได้ในการใช้ตัวอักษรเดิม “สถานีกลาง” ที่ติดตั้งอยู่ในปัจจุบัน มาปรับปรุงเพื่อใช้ติดตั้งแทนที่จะทำขึ้นใหม่ทั้งหมด เนื่องจากตัวอักษรยังอยู่ในสภาพยังดี และสามารถนำมาปรับปรุงเหมือนกับตัวอักษรใหม่ได้
- ร.ฟ.ท. อาจทบทวนค่างานออกแบบ ที่น่าจะสามารถกำหนดอัตราส่วนของราคางานได้ต่ำกว่างานปกติ เนื่องจากเป็นงานที่ได้ออกแบบไว้เดิมอยู่แล้ว รวมทั้งการทบทวนงานเผื่อเลือก (Provisional Sum) ที่อาจสามารถปรับลดได้ เช่น การทบทวนความจำเป็นที่จะต้องมีวัสดุมาปิดไว้ทดแทนกระจกในขณะที่มีการรื้อถอน เนื่องจากงานดำเนินการในช่วงฤดูหนาว และอาคารสถานีบางส่วนเป็นพื้นที่ที่ไม่มีกระจกอยู่แล้ว เป็นต้น
ความถูกต้องของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง
นายสรพงศ์กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงในครั้งนี้ ร.ฟ.ท. ได้อ้างเหตุผลของการจ้างด้วยเหตุตามนัยมาตรา 56 (2) (ค) แห่ง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ พ.ศ. 2560 ที่กำหนดไว้
ว่าเป็น “การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีผู้ประกอบการซึ่งมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว หรือการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจากผู้ประกอบการซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือตัวแทนผู้ให้บริการโดยชอบด้วยกฎหมายเพียงรายเดียวในประเทศไทยและไม่มีพัสดุอื่นที่จะใช้ทดแทนได้”
ทางคณะคณะกรรมการ พิจารณาตรวจสอบว่าการจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงของ ร.ฟ.ท. เป็นไปตามเหตุผล และหลักการของมาตรา 56 (2) (ค) แห่ง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ พ.ศ. 2560 หรือไม่ ซึ่งมีผลการตรวจสอบสรุปได้ คือ
คณะกรรมการเห็นว่า กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของ ร.ฟ.ท. ตามนัยมาตรา 56 (2) (ค) แห่ง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ พ.ศ. 2560 แม้จะเป็นการใช้ดุลพินิจตีความระเบียบกฎหมายในกรอบอำนาจหน้าที่โดยอาศัยเหตุและผลความจำเป็นตามที่เข้าใจ และ ร.ฟ.ท. ได้ชี้แจงมาข้างต้น ไม่ว่าจะถูกต้องหรือไม่ก็ตาม ก็สมควรหารือผู้เชี่ยวชาญด้านพัสดุกรมบัญชีกลางให้ชัดเจน
นอกจากนี้ ร.ฟ.ท. ควรศึกษาทบทวนวิธีการจัดซื้อจัดจ้างให้เหมาะสม รอบคอบ และสอดคล้อง กับ พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ พ.ศ. 2560 โดยอาจพิจารณาแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักการของกฎหมาย ที่เห็นควรให้ใช้วิธีการพิจารณาเลือกใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปเป็นลำดับแรกก่อน เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเปิดกว้าง ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นถึงความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นที่ยอมรับของประชาชน
นอกจากนี้ เห็นควรให้ ร.ฟ.ท.พิจารณาทบทวนตรวจสอบกระบวนการสืบราคาให้เกิดความครบถ้วนชัดเจน และดำเนินการให้สอดคล้องกับคู่มือแนวทางการประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลางและการคำนวณราคากลางเกี่ยวกับการขอจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0433.2/ว 206 ลงวันที่ 1 พ.ค. 2562 ตามขั้นตอนต่อไป
โดยภายหลังการแถลงดังกล่าว นายสรพงศ์ได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ในประเด็นถึงความผูกพันของผลการพิจารณาของคณะกรรมการชุดดังกล่าวต่อการดำเนินการของการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า ผลการตรวจสอบดังกล่าวไม่มีข้อผูกพันต่อการรถไฟแห่งประเทศไทย ดังนั้นการพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการต่อหรือไม่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้นเป็นอำนาจของการรถไฟแห่งประเทศไทย
สำหรับประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยเคยอ้างว่าเป็นไปตามคำสั่งเร่งรัดของกระทรวงคมนาคมนั้น นายสรพงศ์กล่าวว่า คำสั่งเร่งรัดของหน่วยงานราชการนั้น คือคำสั่งที่เร่งให้มีการดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย และธรรมาภิบาล จึงไม่สามารถใช้อ้างถึงการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงได้
ในส่วนของการดำเนินการลำดับต่อไปของการรถไฟแห่งประเทศไทย จะต้องเป็นไปตามดุลพินิจของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงที่เห็นควรจะต้องมีการส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลางวินิจฉัย โดยคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
โดยสำหรับประเด็นการตั้งข้อสังเกตถึงเหตุผลว่าทำไมถึงไม่เว้นป้ายชื่อไว้เพื่อรอชื่อของสถานีอย่างเป็นทางการนั้น นายสรพงศ์ปฏิเสธให้ความเห็น
- UNIQ คว้างานปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ มูลค่า 33 ล้าน
- เหตุเกิดที่ “สถานีกลางบางซื่อ” ปมร้อนรถไฟ-ค่าติดตั้งป้าย 33 ล้านบาท
- รฟท.ชี้แจงเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ ใช้ 112 ตัวอักษร
- ระงับ เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้าน ผู้ว่าการรถไฟเผยเหตุผล
- เปิดสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ดันเป็นศูนย์กลางขนส่งทางรางอาเซียน
- สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เรื่องควรรู้ ก่อนเปิดเต็มรูปแบบ 19 ม.ค. 66