Market-think : รู้แล้วลืมให้หมด

ชลากรณ์ ปัญญาโฉม
คอลัมน์ : Market-think
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

วันก่อน อ่านเพจของ “ชลากรณ์ ปัญญาโฉม” ผู้บริหารเวิร์คพอยท์ เจอโพสต์เก่าของเขาเมื่อหลายปีก่อน

เขาเล่าเรื่องหลักคิด Fantastic Four ของ “พี่จิก” ประภาส ชลศรานนท์

ดูชื่อเรื่องแล้วเหมือนหนังอเวนเจอร์

แต่ “พี่จิก” แปลเป็นไทยว่า “อภินิหาร 4 ประการแห่งความสำเร็จ”

เขาเขียนเรื่องนี้เพื่อสอนนักเรียนโรงบ่ม (โรงเรียนสอนแต่งเพลง) ของ “พี่จิก”

ดีมากเลย

ลองอ่านดูนะครับ

“Fantastic Four”

ครูจะชวนให้พวกเรารู้จัก อภินิหารสี่ประการแห่งความสำเร็จ

จำได้ไหม

“แค่ชอบยังไม่พอ”

ครูพูดบ่อยมาก เพราะไม่ว่าใคร ๆ ทุกวันนี้จะทำอะไรก็จะอ้างว่าตัวเองรักตัวเองชอบในสิ่งนั้นสิ่งนี้

แน่นอนความรักความชอบต้องมาก่อน อันนี้สำคัญ

“ความชอบ” เป็นอภินิหารอันดับแรก

แต่ชอบแล้วต้องเพียรด้วย

ชอบแล้วนั่งนิ่ง ๆ คุยเล่นทั้งวันในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ลงมือทำอะไรก็ไม่เกิดงาน

ดังนั้น “ความเพียร” จึงเป็นอภินิหารอันดับที่สอง

เพียรแล้วก็ยังไม่พอต้อง “หลงใหลมันอย่างหัวปักหัวปำ” ด้วย

อันนี้ครูก็ยกตัวอย่างบ่อย ๆ มากกว่าความเพียรคือเราต้องมีใจจดจ่อกับสิ่งนั้น หรือภาษาที่คนทำงานชอบใช้คำว่าโฟกัสนั่นแหละ

อันนี้เป็นอันที่สาม

แล้วอภินิหารอันที่สี่ละ

“เมื่อรู้แล้วจงลืมทิ้งให้หมด” ครูเคยพูดอย่างนี้ แปลว่าอะไร

แปลว่าเราต้องเข้าใจงานของเราอย่างลึกซึ้ง ไม่ต้องจด

ขั้นตอนที่เคยแยก ๆ ไว้ให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับลมหายใจ

ทำงานเหมือนเราหายใจเข้าออก

รู้ที่มาที่ไป รู้เหตุรู้ผล

เข้าใจคำว่าแก่นของงานอย่างแท้จริง

ครูเรียกอภินิหารอันที่สี่ว่า ‘เข้าใจอย่างลึกซึ้ง’

มันจะเกิดได้ต่อเมื่อเราสอดส่องมองทุกมุม

มิเช่นนั้นเราจะกลายเป็นแค่คนโง่ที่ขยันเท่านั้น

Fantastic Four นี้ต้องมีครบ และต้องค่อย ๆ มีทีละขั้น

เพราะมันเป็นขั้นกว่า

เรื่องอภินิหารสี่ประการที่ครูพูดในวันนี้

มหาบุรุษหนึ่งผู้มีชีวิตเมื่อสองพันหกร้อยปีก่อนพูดไว้หมดแล้วเป็นภาษามคธ และพูดให้คนธรรมดาฟังด้วย

ต่อมามันถูกแปลเป็นภาษาไทยว่า อิทธิบาทสี่ (รากฐานแห่งอิทธิฤทธิ์)

ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา

…นั่นเอง

เมื่อครั้งยังเด็กเรียนวิชาพุทธศาสนา เราก็ท่องกันปาว ๆ

บางทีครูที่สอนเราก็อาจไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง

บางทีผู้เขียนตำราก็อาจไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง

อภินิหารสี่ประการนี้ก็เหมือนเรื่องอื่น ที่จะไม่มีทางเข้าใจอย่างลึกซึ้งได้

ถ้าไม่ทำด้วยตัวเอง

ด้วยความรัก ด้วยความเพียร ด้วยความหลงใหลและด้วยการสอดส่องให้รอบด้านจนทะลุปรุโปร่ง”

ลองอ่านดี ๆ นะครับ เอาปรับไปใช้ในการทำงานได้

ในอภินิหารทั้งสี่ของ “พี่จิก” ผมชอบเรื่อง “เมื่อรู้แล้วจงลืมทิ้งให้หมด” มาก

เพราะนอกจากในมุมที่ “พี่จิก” บอกว่า “เข้าใจงานอย่างลึกซึ้ง”

ผมยังคิดในมุมของ “ความคิดสร้างสรรค์”

เพราะสิ่งใหม่ ๆ ในโลกใบนี้มาจากการเริ่มต้นคิดใหม่

ไม่ยึดติดกับสิ่งเดิมที่เคยทำมาก่อน

ต้องกล้าทิ้ง

และต้องกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่

…อย่ากลัว