ชูศักดิ์ ยันเศรษฐาขยันขันแข็ง รัฐบาลเป็นปึกแผ่น พักโทษทักษิณไม่กระทบ

ชูศักดิ์ ศิรินิล

ชูศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้เพื่อไทยทำหน้าที่อย่างอิสระ พักโทษ “ทักษิณ” ไม่มีผลกระทบต่อรัฐบาล

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งข้อสังเกตการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมาเป็นศูนย์รวมอำนาจของการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง ว่าน่าจะเป็นเรื่องการวิเคราะห์ของผู้ที่สนใจทางการเมือง โดยพิจารณาจากในอดีตที่ผ่านมา แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยเราเป็นปึกแผ่น มีผู้บริหาร หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค เราก็ทำหน้าที่ของเราไป และยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยก็ทำหน้าที่ของเราด้วยความเต็มที่ เป็นอิสระ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการประเมินว่าการออกมาของนายทักษิณในครั้งนี้ จะมีปัจจัยกระทบทางการเมืองที่สะเทือนต่อรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า คิดว่ายังไม่ถึงขนาดนั้น ซึ่งรัฐบาลทำหน้าที่กันเป็นปึกแผ่นดี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ก็ทำงานเต็มที่ ขยันขันแข็ง คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เขาวิเคราะห์กัน

“ให้รัฐบาลทำงานกันไป และท่านทักษิณก็ทำหน้าที่ในฐานะประชาชน ซึ่งผมเข้าใจว่าท่านมีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์การเมือง แต่พรรคการเมืองก็ทำหน้าที่กันไป”

เมื่อถามว่า การกลับมาของนายทักษิณที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็งขึ้นหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า โดยประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถของนายทักษิณในอดีตที่ผ่านมาเราก็ทราบกันอยู่ และตนเชื่อว่านายทักษิณเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นบุคลากรของประเทศ ฉะนั้น ถ้านายทักษิณจะเสนอข้อแนะนำอะไรตนคิดว่าจะเป็นประโยชน์ จะเข้มแข็งขึ้น

“ต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเพื่อไทย ในประวัติของทั้งพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน นายทักษิณก็คือศูนย์รวมทางจิตใจ เหมือนเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทยด้วย แต่พรรคเพื่อไทยต้องเข้มแข็ง ยืนด้วยความรู้ ความสามารถของบุคลากรที่มีอยู่ด้วย”

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีการรับมือกับกลุ่มที่เห็นต่างกับการออกมาของนายทักษิณอย่างไรบ้าง นายชูศักดิ์กล่าวว่า เรามีจุดยืนว่าทุกอย่างจะสามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้ แต่ควรอยู่ในครรลองของกฎหมาย อยู่ในความสงบเรียบร้อย และไม่ทำอะไรให้เกิดความแตกแยกร้าวฉานไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทยที่ไม่นิยมความรุนแรง ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ไม่นำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าและสันติสุข

เมื่อถามว่าจะกลับไปเหมือนยุคเหลืองแดงหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่าตนไม่เชื่อว่าจะเป็นถึงขนาดนั้น และปัจจุบันนี้เราเห็นว่ารัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรค ซึ่งพรรคที่เคยเห็นไม่ตรงกัน แต่ก็มาร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล เพราะเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป โดยเงื่อนไขหรือปัจจัยไม่เหมือนเมื่อก่อน

เมื่อถามว่า ทางพรรคได้ประเมินสถานการณ์อื่นไว้ด้วยหรือไม่ เพราะนายทักษิณยังมีมาตรา 112 ที่มีการอายัดตัวอยู่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ก็ว่ากันไป เราไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์ หรือเอาใจว่าอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เราก็วิจารณ์ แล้วเกิดความแตกแยกร้าวฉาน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่นายทักษิณมีทีมกฎหมาย และย้ำว่าเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม