“อีลิทการ์ด” ปรับใหญ่ ยุบเหลือ 4 แพ็กเกจ แพงสุด 5 ล้าน รับปีละ 100 คน

ผู้บริหารททท.และไทยแลนด์ พริวิเลจถ่ายภาพร่วมกัน

ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด หรือเดิมในชื่อ “อีลิทการ์ด” ปรับครั้งใหญ่ ยุบขายเหลือ 4 แพ็กเกจ เจาะกลุ่มนักธุรกิจ เที่ยวพร้อมทำงาน บุกตลาดจีน ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา เผยแพ็กเกจท็อปสุด 5 ล้น รับปีละ 100 คน

วันที่ 30 สิงหาคม 2566 นายมนาเทศ อันนวัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เปิดเผยว่า ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ถือเป็น Residency Campaign เพียงรายเดียวในโลกที่ให้สิทธิทางด้านวีซ่าพร้อมบริการ Airport Services และ Lifestyle Privileges สร้างรายได้เข้าประเทศตลอดระยะดำเนินงาน 20 ปีกว่า ห้าหมื่นล้านบาท มีสมาชิกบัตรรวมกว่า 31,500 คน

“ในปี 2566 มีรายได้ประมาณ 7,500 ล้านบาท มีสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 11,500 คน เติบโต 210 % จากรายได้ปี 2565”

ในวาระครบรอบการดำเนินงาน 20 ปีของบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จึงได้มีการรีแบรนด์จาก “Thailand Elite Card” เป็น “Thailand Privilege Card” และเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ครั้งใหญ่เพื่อต้อนรับชาวต่างชาติผู้ที่ต้องการย้ายมาพำนักระยะยาวในประเทศไทยและมีความต้องการ Luxury Lifestyles ที่หลากหลาย ให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดและความสะดวกสบาย ครบครันทั้งสิทธิประโยชน์สนามบินด้านต่าง ๆ

โดยการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ในหลายมิติที่สำคัญ อาทิ การดีไซน์รูปแบบโลโก้ใหม่ ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น การปรับโฉมชุดพนักงานใหม่  ภายใต้แบรนด์ DNA “GRACE” ของบริษัทฯ ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการโดยคนไทย รวมทั้งสร้างมูลค่าทางธุรกิจนำรายได้เข้าประเทศ

นายมนาเทศ กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ เน้นเจาะ 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยบ่อย ๆ นักลงทุน, กลุ่มคนทำงานควบคู่ไปกับการพักผ่อนและการท่องเที่ยว, กลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานในเมืองไทย  และผู้สูงอายุวัยเกษียณ

“บริษัทฯ มุ่งรุกตลาดในประเทศต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ ประกอบด้วย กลุ่มตลาดหลัก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และรัสเซีย เกาหลี และกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป รวมถึงกลุ่มตลาดใหม่ ที่มีศักยภาพ พร้อมดำเนินการเปิดตลาดในอนาคต เช่น อินเดีย และประเทศในกลุ่ม GCC อาทิ ซาอุดิอาระเบีย” นายมนาเทศกล่าว

สำหรับสิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ของ Thailand Privilege Card ภายใต้แนวคิด “More Choices More Freedom” โดยสมาชิกแต่ละประเภทจะได้รับคะแนน (Privilege Points) เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์และประสบการณ์เหนือระดับตามความต้องการ โดยแบ่งบัตรสมาชิกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

1.RESERVE : อัตราค่าธรรมเนียม 5 ล้านบาท อายุการเป็นสมาชิก 20 ปี++ สำหรับการเข้าออกประเทศไทยระยะยาว และสามารถต่ออายุได้ครั้งละ 5 ปี พร้อมรับคะแนนสะสมปีละ 120 คะแนน เพื่อนำไปใช้แลกสิทธิพิเศษที่เหนือระดับ

ทั้งด้านที่พัก การอำนวยความสะดวกการเดินทาง การลงทุน การดูแลสุขภาพและอื่นๆ โดยเป็นบัตรเพียงประเภทเดียวที่ผู้สมัครต้องได้รับการเชิญเท่านั้น (By invitation only) และจำกัดจำนวนสมาชิกปีละไม่เกิน 100 ท่านเท่านั้น

2.DIAMOND : อัตราค่าธรรมเนียม 2.5 ล้านบาท อายุการเป็นสมาชิก 15 ปี มอบสิทธิพิเศษ ตลอดระยะเวลาการพำนักในประเทศไทยพร้อมรับคะแนนสะสมปีละ 55 คะแนน เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

3.PLATINUM : อัตราค่าธรรมเนียม 1.5 ล้านบาท อายุการเป็นสมาชิก 10 ปี พร้อมรับคะแนนสะสมปีละ 35 คะแนน เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

4.GOLD : อัตราค่าธรรมเนียม 900,000 บาท อายุการเป็นสมาชิก 5 ปี สำหรับการเข้าออกประเทศไทยระยะสั้น พร้อมรับคะแนนสะสมปีละ 20 คะแนน เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

แนวคิด More Choices More Freedom  นำเสนอสิทธิพิเศษแก่ผู้ถือบัตรสมาชิกทุกท่านตามไลฟสไตล์ที่สมาชิกชื่นชอบตลอดระยะเวลาพำนักในประเทศไทย ได้แก่ บริการดูแลอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม ที่สนามบิน สิทธิพิเศษบริการห้องรับรองพิเศษ ณ สนามบินขาเข้าและขาออก บริการรถลีมูซีนรับ-ส่ง จากสนามบิน รวมถึงผู้ช่วยส่วนตัวบริการสำหรับสมาชิกทั้ง 4 ภาษา ภาษาอังกฤษ เกาหลี จีนกลาง ญี่ปุ่น รวมถึงภาษาอื่น ๆ ในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ยังเดินหน้าจับมือพันธมิตรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ เพื่อยกระดับการให้บริการสมาชิก และสิ่งสำคัญคือการสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศในทุก ๆ ไลฟ์สไตล์ อาทิ

  • Stay สิทธิพิเศษการเข้าพัก ในโรงแรมชั้นนำระดับโลก พร้อมสิทธิประโยชน์อื่นๆ อาทิ Stay 1 night get 1 more night รวมถึงสิทธิในการอัพเกรดห้องพัก
  • Travel สิทธิพิเศษด้านเดินทางท่องเที่ยวจากสายการบินชั้นนำ พร้อมบริการผู้ช่วยส่วนตัวและพนักงานต้อนรับ ณ สนามบิน สิทธิพิเศษรถรับ-ส่งสนามบิน และบริการห้องรับรองพิเศษสนามบิน สิทธิพิเศษบริการคนขับรถส่วนตัว, เรือยอร์ชส่วนตัว, Private Jet และรถเช่าส่วนตัว
  • Leisure สิทธิประโยชน์จากพันธมิตรทั้งจาก ร้านอาหาร เอนเตอร์เทนเมนต์ ช้อปปิ้ง กีฬา อาทิ ส่วนลดร้านค้า, VIP Lounge, บริการ Personal shopping, บริการ Priority viewing ณ ศูนย์การค้าชั้นนำ, Co-working space, บัตรชมภาพยนต์ 1 แถม 1 เป็นต้น
  • Well-Being สิทธิพิเศษด้านสุขภาพ อาทิ บริการตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลชั้นนำ บริการสปา, บริการฟิตเนส Wellness Center ชั้นนำ
  • Wealth สิทธิพิเศษด้านการลงทุน สิทธิบัตร Wisdom (ตามเงื่อนไข) บริการที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุน, การอบรมสัมนา, แพคเกจพิเศษสำหรับประกันสุขภาพและประกันชีวิต

นายมนาเทพ กล่าวถึงคอนเซปท์ของไทยแลนด์ พริวิเลจ การ์ด