เร่งสร้างความเชื่อมั่น จีนเที่ยวไทย แก้ภาพลักษณ์เมืองไทยไม่ปลอดภัย

รัฐบาลไทย โดยนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ได้ประกาศเริ่มใช้มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (visa exemption) หรือ “วีซ่าฟรี” ให้นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ระหว่าง 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างรายได้เข้าประเทศ

โดยนายกฯ เศรษฐา ได้แถลงในวันที่ 25 กันยายน 2566 ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานแบบวีซ่าฟรีว่า ขอให้มั่นใจว่านโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมาก ที่สำคัญนักท่องเที่ยวที่เข้ามาตั้งแต่ก้าวแรก จนก้าวสุดท้ายที่กลับออกจากประเทศไทยต้องปลอดภัยและประทับใจ

พร้อมระบุด้วยว่า ในเบื้องต้นยังพบว่ามีบุ๊กกิ้งเข้ามาหลาย 10 เท่าตัว รวมถึงเข้าเว็บไซต์ของประเทศไทยเยอะมากด้วย

เรียกว่าตอบโจทย์การกระตุ้นตลาดจีนของรัฐบาล สมกับที่เป็น “ยาแรง” ได้ตามเป้าหมาย

สะดุดเหตุการณ์ “พารากอน”

ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังฟื้นตัวต่อเนื่องนี้มาสะดุดกับเหตุการณ์เด็กวัย 14 ก่อเหตุยิงกลางศูนย์การค้าสยามพารากอน มีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ทำให้เกิดกระแสตอกย้ำว่า “ประเทศไทย” ไม่ปลอดภัยแพร่กระจายในสื่อโซเชียลของจีนอย่างรวดเร็ว

Advertisment

หลังเหตุการณ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ไปเยี่ยมคนบาดเจ็บ พร้อมทั้งโทรศัพท์สายตรงถึง นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความเสียใจในนามของรัฐบาลไทยต่อการเสียชีวิตและแสดงความห่วงใยต่อผู้บาดเจ็บ

โดยทางสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ก็ได้ออกแถลงการณ์ว่า หลังได้ทราบเหตุการณ์สถานทูตจีนเร่งเปิดใช้กลไกฉุกเฉิน ตรวจสอบสถานการณ์ และทำงานร่วมกับฝ่ายไทย พร้อมระบุว่า นายกฯ เศรษฐา ได้ โทร.แสดงความเสียใจ และแจ้งว่าจะสอบสวนและจัดการเหตุการณ์นี้ตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และเสริมสร้างการจัดการด้านความปลอดภัยสำหรับคนจีนที่เดินทางมาประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อสื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ไทยเปิดวีซ่าฟรีหรือไม่ และจะเรียกขวัญกำลังใจกับนักท่องเที่ยวที่ยังท่องเที่ยวอยู่ในไทยอย่างไร นายกฯ เศรษฐา บอกว่า ตนเชื่อว่านักท่องเที่ยวเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ที่สุดความสามารถจริง ๆ และรัฐบาลไทยรวมถึงเอกชนไทยได้ประสานความร่วมมือดูแลเพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ

ตอกย้ำ “ไทย” ไม่ปลอดภัย

“ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) บอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก แต่ก็เป็นอะไรที่น่าเสียดายมากเช่นกัน ประเทศไทยไม่ควรมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นเลย เนื่องจากสถานการณ์การท่องเที่ยวโดยรวมกำลังปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ที่สำคัญรัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างมาก และประเทศไทยเพิ่งประกาศใช้มาตรการยกเว้นวีซ่า หรือวีซ่าฟรีไปเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น

Advertisment

“สทท.อยากเห็นการเยียวยาผู้ประสบเหตุอย่างเร่งด่วนและไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จากนั้นค่อยมาวางแนวในการยกระดับความปลอดภัยและเรียกความเชื่อมั่นต่อไป”

เมื่อถามว่า มองว่าเหตุการณ์นี้กระทบต่อการตัดสินใจเดินทางของนักเที่ยวจีนเข้าไทยหรือไม่ “ชำนาญ” บอกว่า ต้องยอมรับว่ากระทบแน่นอน ส่วนจะมากแค่ไหนนั้น มองว่าขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลไทยเราสามารถบริหารจัดการได้ดีและเร็วแค่ไหน รวมถึงการจัดการกับเฟกนิวส์ต่าง ๆ ด้วย เพราะสื่อในจีนเองก็นำเสนอข่าวแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว

สอดรับกับผู้คร่ำหวอดในธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่ง บอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สาเหตุหลักที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยในจำนวนที่ไม่ถึงเป้าในช่วงที่ผ่านมาคือ ปัญหาเรื่องของความไม่ปลอดภัย โดยปีนี้มีข่าวเรื่องความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีนที่จะมาเที่ยวไทยเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ของจีนเยอะมาก

โดยมีภาพยนตร์เรื่องดังของจีนออกมา 2 เรื่องคือ Lost in The Star หนังอาชญากรรมที่สื่อว่าการฆ่าคนเป็นเรื่องง่ายมาก และเรื่อง No More Bets ที่สื่อถึงมาเที่ยวไทยแล้วโดนหลอกไปทำคอลเซ็นเตอร์ หรือมีแก๊งหลอกเอาอวัยวะไปขาย รวมถึงความไม่ปลอดภัยอื่น ๆ โดยหนังทั้ง 2 เรื่องนี้ทำรายได้ในจีน เรื่องละกว่า 3.500 ล้านหยวน หรือกว่า 17,000-18,000 ล้านบาท

“กระแสของหนังทั้ง 2 เรื่องนี้ สร้างความกลัวให้กับนักท่องเที่ยวจีนจนไม่กล้ามาเที่ยวประเทศไทย ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลไทยต้องเร่งแก้ไขและสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางมาเที่ยวไทยอย่างปลอดภัย”

เหตุการณ์ครั้งนี้เหมือนเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าประเทศไทยไม่มีความปลอดภัย

นักท่องเที่ยวจีนมา “วีซ่าฟรี”

“สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เสียชีวิตและอีกหนึ่งรายที่ได้รับบาดเจ็บ เดินทางเข้าประเทศไทยตามมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา หรือวีซ่าฟรี เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา และยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะกระทบความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีน

ทั้งนี้ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะพยายามสร้างความเชื่อมั่นความปลอดภัยในสถานที่ท่องเที่ยว จะควบคุมไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนมาตรการเรียกความมั่นใจนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาจะเป็นอย่างไรนั้น จะต้องมีการพูดคุยกันต่อไป

สำหรับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น รัฐบาลไทยจะดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด รวมถึงการที่ครอบครัวจะเดินทางมาพบญาติผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ในส่วนของผู้บาดเจ็บ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงรับไว้ในพระราชานุเคราะห์

ตั้งศูนย์ช่วยผู้ประสบเหตุ

ขณะที่ “จักรพงษ์ แสงมณี” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้ข้อมูลว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมาก โดยตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์ (situation command center) ขึ้นมาสำหรับเหตุการณ์นี้โดยเฉพาะ ตั้งอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ

ทั้งนี้ เพื่อคอยสื่อสารกับสถานทูตต่าง ๆ ในประเทศไทยทั้งหมด ให้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่ตรงที่สุด และประสานงานการดูแลครอบครัวผู้ประสบเหตุที่อยู่ในต่างประเทศทั้งหมด ส่วนในอนาคตจะมีมาตรการป้องกันอย่างไรนั้นต้องช่วยกันคิดต่อไป

เตรียมเสนอของบฯเยียวยา

ด้าน “อารัญ บุญชัย” ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติกรณีที่มาประสบเหตุเสียชีวิตและบาดเจ็บในประเทศไทย แต่ปัจจุบันกองทุนดังกล่าวถูกยุบไปแล้ว จึงหารือกันว่าการช่วยเหลือเยียวยาครั้งนี้จะใช้งบฯปกติหรือใช้งบฯกลาง โดยทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาเร็ว ๆ นี้

“ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้คือ การดูแลผู้บาดเจ็บ ดูแลศพผู้เสียชีวิตให้ดีก่อน ส่วนเงินช่วยเหลือเยียวยานั้น ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับญาติ แต่ทางรัฐบาลต้องเตรียมไว้อยู่แล้ว”

เร่งสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยว

“อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์” เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) มองว่า จากเหตุการณ์นี้ขอเสนอให้รัฐบาลเร่งดูแล เยียวยาผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตให้ดีที่สุดในทุกกรณี รวมถึงออกค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้กับครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมบอกด้วยว่าให้งดตอบคำถามที่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องข้อมูลหรือหลักฐาน และตั้งหน่วยงานข่าวสาร ติดตาม ประชาสัมพันธ์ข้อเท็จจริงแก่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์

โดยรัฐบาลควรตั้งศูนย์ข่าวงานวิกฤตอย่างถาวร โดยมีเครื่องมือติดตามกระแสข่าว ความคิดเห็นของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ระบบ social listening และคอยตอบสนองข่าวเชิงวิกฤตแบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ ภาครัฐต้องออกมาตรการควบคุมความปลอดภัยเชิงรุก และปรับโครงสร้างความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่เป็นรูปธรรมอย่างเร่งด่วน และให้การยืนยันแก่ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีก เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นกลับมา

ด้าน “ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลด้วยว่า ททท. มีแผนนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยไปโรดโชว์ พบปะกับผู้ประกอบการฝั่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้

พร้อมยืนยันว่า แผนดังกล่าวนี้ยังไม่ได้มีการปรับแต่อย่างใด โดยในงานนี้ ททท.ได้เตรียมลงนามบันทึกความร่วมมือ หรือ memorandum of cooperation : MOC กับเอกชนท่องเที่ยวจีนขับเคลื่อนประเด็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวด้วย

ขณะที่ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า จะเร่งดำเนินการร่วมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับความปลอดภัยทุกพื้นที่ พร้อมทั้งมีมาตรการเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจ อำนวยความสะดวกกับผู้บาดเจ็บ

รวมถึงการสื่อสารภาพลักษณ์ และความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว