จาตุรนต์ ซัด อนุทิน ไม่ใช่คนเดียวที่ขวางเอกชนนำเข้าวัคซีน

จาตุรนต์ว่าอนุทิน-ประยุทธ์ ขวางเอกชนนำเข้าวัคซีน

อดีตรองนายกรัฐมนตรี “จาตุรนต์” เปิดศึกปมวัคซีนเอกชนกับ “อนุทิน” อีกรอบ ครั้งนี้ดึงอีกคนมาเอี่ยวด้วย ซัดทั้งคู่ขวางเอกชนนำเข้าวัคซีน 

วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แชร์คลิปรายการ “เจาะลึกทั่วไทย” ซึ่งมีการพูดถึงวัคซีนไฟเซอร์ ระบุว่าบริษัทไฟเซอร์เคยเสนอขายวัคซีนให้ประเทศไทยย 13 ล้านโดสในราคาพิเศษ แต่ถูกรัฐบาลไทยปฏิเสธถึง 4 ครั้ง

ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกมาปฏิเสธโดยอธิบายข้อมูลจาก ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ อย่างละเอียด ทั้งยังระบุว่าข้อมูลเท็จจากนายจาตุรนต์สร้างความเสียหายให้แก่กระทรวงสาธารณสุข และ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด มติชน รายงานว่า นายจาตุรนต์ เขียนแสดงความเห็น หลังจาก นายศุภชัย ใจสมุทร รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบโต้ นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส ที่วิจารณ์ทางรายการทีวีว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขัดขวางเอกชนร่วมจัดหาวัคซีนยี่ห้ออื่น

โดยนายจาตุรนต์มองว่า ที่พรรคภูมิใจไทยโวยว่า นายอนุทินขวางเอกชนนำเข้าวัคซีน เป็นเฟคนิวส์ ก็มีเหตุผลอยู่ เพราะเป็นการให้ความจริงไม่ครบ ความจริงทั้งนายอนุทิน และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขวางเอกชนนำเข้าวัคซีนด้วยกันทั้งคู่

อดีตรองนายกรัฐมนตรีในยุคนายทักษิณ ชินวัตร ยังยกตัวอย่างในต่างประเทศด้วยว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์เจรจากับโมเดอร์นาเพื่อขอซื้อวัคซีน จำนวน 13 ล้านโดส โดยมีภาคเอกชนมาร่วมเจรจา และขอสมทบซื้อเพิ่มอีก 7 ล้านโดส เพื่อนำไปฉีดให้บุคลากรด่านหน้า สุดท้ายปิดดีลที่ 20 ล้านโดส ส่งมอบวัคซีนกลางปีนี้ เป็นตัวอย่างว่าบทบาทของเอกชนเป็นประโยชน์ได้

นายจาตุรนต์แสดงความเห็นอีกว่า การที่เอกชนไทยรวมตัวกันเสนอให้รัฐบาลหาวัคซีนเพิ่ม และพร้อมร่วมมือจัดหาวัคซีนมาให้บุคลากรของตน เป็นการเพิ่มทางเลือกแก่ประชาชน เพิ่มจำนวนวัคซีน และจะทำให้การฉีดวัคซีนเร็วขึ้น ประชาชนจะปลอดภัยมากขึ้น เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ น่าเสียดายที่รัฐบาลปฏิเสธความร่วมมือนี้

รัฐบาลควรทบทวนนโยบายปิดกั้นขัดขวางการมีส่วนร่วมของเอกชน การผูกขาดวัคซีนอย่างที่ผ่านมาทำให้ประเทศมีความเสี่ยงอย่างมาก หากการผลิตหรือนำเข้าไม่เป็นไปตามแผนจะเสียหายกันหมด การมีคนมาช่วยรัฐบาล ย่อมช่วยลดความเสี่ยงในการฉีดวัคซีนล่าช้า